ป้ายกำกับ

น้ำชาเมืองคอน

"ไข่ ปากคอน"เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากนครศรีธรรมราช

"เราชาวนครอยู่เมืองพระ มั่นอยู่ในสัจจะศีลธรรม กอปรกรรมดี มีมานะพากเพียร ไม่เบียดเบียนทำอันตรายผู้ใด"
ไม่ต้องบอกก็คงรู้แล้วนะครับ ว่าเป็นคำขวัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช พวกเรา "ชาวคอน" หรือ "คนคอน" สุดจะภาคภูมิใจในบ้านเมืองของตัวเองว่าเป็นชุมชนเก่าแก่ก่อนประวัติศาสตร์ มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดเป็นพันปีมาแล้ว
คนจังหวัดอื่นๆ มักจะหาว่าพวกเราเป็นคนดุ ขอยืนยันยันว่าไม่ใช่หรอกครับ แต่ยอมรับว่าเป็นคนรักพวกพ้อง ไม่รังแกใครก่อน แต่ไม่ยอมให้ใครมาหยามง่ายๆเด็ดขาด

เรียกว่าเป็นคนจริงใจสุดๆ ละกัน!

แหม! พวกผมน่ะคนเมืองพระ เมืองกวีนะครับ ไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนซะที่ไหน

วัดนางพระยา วัดพระมหาธาตุโด่งดังสุดๆ เพราะเป็นแหล่งกำเนิดองค์พ่อจตุคามรามเทพ ใครๆ ก็รู้กันอยู่ ไม่ใช่ว่ามาโฆษณาหรือประกาศสรรพคุณ "ราชันย์ทะเลดำ" หรอกครับ ท่านดังทั่วทั้งประเทศและต่างประเทศมาเป็นปีแล้ว เมืองคอนบ้านผมที่เคยสงบมาช้านานเลยคึกคักเหลือเชื่อ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวบูมระเบิดไปเลย

ผีกะเหรี่ยงสาว

เมื่อประมาณปี ๒๕๐๗ ณ หมู่บ้านบนเขา ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชนชาวกะเหรี่ยง ตั้งอยู่ในวงล้อมของขุนเขาและป่าทึบ การคมนาคมทางรถยนต์ยังไม่สะดวก ต้องใช้การเดินทางด้วยเท้า บุกป่าฝ่ารกเข้าไป กว่าจะถึงหมู่บ้าน ก็แทบจะหมดอาลัยกันละ

พวกเราสามคม คือ ตัวผม วิรัช เทพ ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าหน่วยงานมาลาเรีย ให้เข้าไปสำรวจเชื้อมาลาเรียที่หมู่บ้านบนเขา พวกเรากลัวก็กลัว อยากไปก็อยากไป ที่กลัวนั้นเพราะเป็นหมู่บ้านที่ไกล และยากลำบากมากในการเดินทางในป่าทึบ มีอันตรายที่มองไม่เห็นซ่อนอยู่มากมาย แต่.....พวกเรากำลังอยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ เหตุที่อยากไปนั้น เพราะสาว ๆ กะเหรี่ยงสมัยนั้นยังไม่มีมายา ล้วนแต่สวย ๆ ทั้งนั้น การเสียผี (การสู่ขอมาเป็นเมีย) ก็ไม่ยุ่งยาก และไม่แพงด้วย แต่ต้องย่องเข้าหาสาวก่อน รุ่งขึ้นถึงจะเสียผีกัน
เวลาทุ่มกว่า ๆ ของวันที่สามในการเดินทางของพวกเราทั้งสามคน พวกเราก็กำลังเดินขึ้นเนินหินปนดิน ซึ่งค่อย ๆ ลาดสูงขึ้น ๆ ๆ เรื่อย ๆ ๆ แสดงว่าเราเข้าเขตบ้านบนเขาแล้ว พวกเราต้องเดินกันอีกเกือบชั่วโมง ถึงจะมองเห็นหลังคาบ้านเป็นเงาตะคุ่มอยู่เรียงรายกัน เสียงสุนัขเห่าขรม ผมส่งภาษากะเหรี่ยง (ขอแปลเป็นไทย) กับเจ้าของบ้านหลังแรกที่เรามาถึง

วิญญาณห่วงแม่

"วิษณุ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณแม่ลูกผูกพัน

น้าแหม่มเป็นเพื่อนของแม่ผม แต่ก็ไม่ได้สนิทกันหรอกครับ นานทีปีหนถึงจะไปมาหาสู่กันทีเพราะต่างคนต่างก็มีภาระ สามีน้าแหม่มเป็นข้าราชการ ต้องไปทำงานต่างจังหวัด แต่เมื่อสองปีก่อนเขาเสียชีวิต น้าแหม่มเลยต้องหอบจุ๊บแจง-ลูกสาวคนเดียวกลับมาอยู่กรุงเทพฯ

แม่กับน้าแหม่มเริ่มสนิทสนมกันอีกครั้ง และแล้วจุ๊บแจงก็ประสบอุบัติเหตุจมน้ำตาย เรื่องอันชวนขนหัวลุกก็บังเกิดนับแต่นั้น!

เมื่อ 2 ปีก่อนผมอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 จุ๊บแจงอ่อนกว่าผม 2 ปี เธอเป็นเด็กสาวที่เรียบร้อยขี้อายมาก หรือจะอายเฉพาะเวลามาบ้านผมก็ไม่รู้ซินะครับ ดูท่าเธอไม่ค่อยเต็มใจมากับแม่เธอเลย ป้าสุข-คนรับใช้บ้านเราเคยได้ยินจุ๊บแจงบ่นกับน้าแหม่มว่า

ตายแล้วฟื้น

"บิลลี่" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อเห็นศพลืมตา

ย่านุ่นเป็นพี่สาวแท้ๆ ของคุณย่าผม เราอยู่บ้านเดียวกันโดยพวกผม คือพ่อ แม่ น้องๆ และปู่ย่า อยู่ด้วยกันบนตึกใหญ่ ส่วนย่านุ่นอยู่คนเดียวที่เรือนไม้หลังเล็ก 2-3 ปี มานี่แก่อ่อนแอลงทุกทีๆ จนในที่สุดต้องนอนเฉยๆ แต่ไม่ได้เจ็บป่วยถึงขนาดต้องพาไปโรงพยาบาล ผมเองน่ะบอกอย่างไม่อายเลยว่า กลัวแกจะตายในบ้านนี้ กลัวมากจริงๆ ครับ แต่แล้ววันหนึ่งมันก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้

คนดูแลย่านุ่มเป็นเด็กรับใช้ชาวพม่าชื่อนิ้ง มีหน้าที่ยกสำรับอาหารมาให้ กับช่วยพยุงเข้าห้องน้ำ

อย่างที่ผมบอกละครับว่าแกเพียงแต่อ่อนระโหยโรยแรง ไม่ได้เจ็บป่วย แกกะย่องกะแย่งไปอาบน้ำและเข้าห้องน้ำเองได้ กินข้าวเองได้ นิ้งแค่คอยดูแลใกล้ๆ และนอนเป็นเพื่อน ย่านุ่นก็เป็นคนน่ารัก ไม่บ่นจู้จี้ ใจดีด้วยซิ เวลาผมกลับจากโรงเรียนแวะเข้าไปหาย่าจะยิ้มดีใจ อวยชัยให้พรว่า จบม.6 แล้วให้เรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ปริญญาสูงๆ นะ

เรื่องผี ที่ได้รับความนิยม