ลูกสาวเข้าฝันแม่
ให้แม่ไปขุดศพถูกฝังดินใต้ต้นมะม่วงหลังบ้านสามีสูญหายไป 4 เดือน
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 22 กันยายน 2548 พ.ต.ท.พิสิฐ อุ่นใจ พนักงานสอบสวน(สบ.3)สภ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก รับแจ้งเหตุมีคนถูกฆ่าถูกฝังดินไว้ที่ใต้ต้นมะม่วงหลังบ้านเลขที่ 4 หมู่ 12 ต.พรหมพิราม หลังรับแจ้งรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.ท.เชาวลิตร วงศ์พิทักษ์ รองผกก.สส. พ.ต.ท.จิตพงษ์ วิชญาปกรณ์ สวป. แพทย์เวรประจำโรงพยาบาลพรหมพิราม เจ้าหน้าที่กู้ภัยข่าวภาพ ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านอีกประมาณ 50 คนช่วยกัน ขุดดินใต้ต้นมะม่วงกว้าง 1 เมตร ลึก ลงไป 1.5 เมตร จนพบโครงกระดูกของมนุษย์ สภาพนอนหงายกะโหลกศีรษะด้านหน้าแตกคล้ายถูกทุบด้วยของแข็ง เนื้อตัวเปื่อยยุ่ยจนเหลือแต่โครงกระดูก คาดว่าได้ชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 เดือน สันนิษฐานในเบื้องต้นศพดังกล่าวน่าจะเป็น นางราตรี ทองดี อาย 21 ปี อยู่บ้านดังกล่าว ที่ทางญาติได้แจ้งความหายไว้เมื่อ 4 เดือนที่ผ่านมา ต่อมาได้ประสานของเจ้าหน้าที่ตำรวจวิทยาการเขต 33 พิษณุโลก เพื่อเก็บหลักฐานเพิ่มเติม
จากการสอบถามนางสมจิตร จิตรประจักษ์ อายุ 55 ปี แม่ของผู้เสียชีวิตทราบว่า นางราตรี บุตรสาวของตนเองได้แต่งงานกับนายเสนี ทองดี อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของบ้านพักหลังดังกล่าวจนมีบุตรด้วยกัน 1 คน ช่วงแรกตนเองมาเยี่ยมเยียนบุตรสาวที่บ้านหลังดังกล่าวอยู่บ่อยครั้ง จนกระทั้งก่อนเกิดเหตุประมาณ 2 เดือน ตนเอง ได้แวะมาหาบุตรสาว แต่ทราบจากนายเสนี ลูกเขยว่า บุตรสาวได้หนีออกจากบ้านไปนานสองเดือนแล้ว ในตอนแรกตนเองก็ไม่ได้เอะใจ คิดว่าบุตรสาวได้ทะเลาะกับสามีและหนีออกจากบ้านไปไม่นานก็กลับมา หลังจากนั้นนายเสนี ได้ไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.พรหมพิราม จนเวลาผ่านไปนานถึง 4 เดือน
"ลูกสาวมาเข้าฝันว่าถูก ฆ่าตายและนำศพมาฝั่งไว้ที่ใต้ต้นมะม่วงหลังบ้านพักของนายเสนี ดิฉันกับญาติจึงได้มาขุดบริเวณดังกล่าวแต่ก็ไม่พบ และกลับไปที่บ้านที่พิจิตรและปรึกษากับญาติพี่น้องช่วยกันตามหาบุตราสาว จนเมื่อคืนที่ผ่านมาบุตรสาวได้มาเข้าฝันอีกว่าตนเองถูกฝังอยู่ที่เดิมที่แม่เคยไปขุดครั้งก่อนแต่ให้ขุดลึกลงไปกว่าเดิม ในเช้าวันนี้จึงย้อนกลับมาขุดลึกลงไปจนพบโครงกระดูกมนุษย์ดังกล่าว คาดว่าจะเป็นศพของนางราตรี บุตรสาวที่หายไปเมื่อ 4 เดือนตอน ต้องรอผลพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อีกเพื่อยืนยันว่าเป็นใคร" นางสมจิตร
ทางด้านนายสมชาย ทองดี อายุ 52 ปี เจ้าของบ้าน กล่าว่า ตนเองไม่ทราบว่า นางราตรี ซึ่งมีศักดิ์ เป็นลูกสะใภ้หายไปไหน สอบถามนายเสนี บุตรชายของตนเองก่อนที่จะติดคุกทราบเพียงว่าทะเลาะกันและภรรยาได้หนีไปทิ้งลูกไว้ให้ตนเองตามลำพัง เรื่องการขุดพบโครงกระดูกดังกล่าวตนเองไม่ทราบมาก่อนเลยว่ามีใครนำมาฝังดินเอาไว้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้เรียกตัวผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบสวนเพิ่มเติมหาคนร้ายรายนี้และผู้ร่วมกระทำความผิดรายอื่นๆมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เรื่องผี ที่ได้รับความนิยม
-
เมื่อปี พ.ศ.2549 ช่วงเดือนสิงหาคม ผมได้ไปเที่ยวจังหวัดประจวบฯ ที่อ่าวมะนาว โดยไปกับเพื่อนๆ รวมผมด้วยเป็น 4 คน เป็นผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 2 คน...
-
"ศิษย์อาจารย์ใหญ่" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณผู้ห่วงใย ดิฉันมีอาชีพรับราชการ เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคตะ...
-
"หมวยเล็ก" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกมีคนไปเผาต้นโพธิ์ในซอย เมื่อปีกลายนี้ครอบครัวหนูย้ายจากเจริญพาสน์ไปอยู่บางยี่เรือ เพราะใกล้ที่ท...
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เวรกรรมมีจริง
ตอบลบ