"แพรว" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากสนามเด็กเล่น
โบราณท่านห้ามว่า ไม่ให้เล่นซ่อนหากันตอนพลบค่ำ เพราะผีจะมาลักเอาตัวไปซ่อนจริงๆ
ดิฉันมีเรื่องที่เจอมากับตัวเองมื่อ 30 กว่าปีก่อน ตอนนั้นดิฉันเพิ่งจะสิบกว่าขวบเท่านั้นเองค่ะ พ่อกับแม่รักมากเพราะเป็นลูกคนเดียว เราอยู่ในบ้านแถวหัวหมาก เวลาพ่อแม่ไปทำงาน ดิฉันก็จะอยู่กับคุณยายและสาวใช้ที่ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงของดิฉันด้วย
ตอนเย็นๆ พี่เลี้ยงจะไปรับดิฉันจากโรงเรียนใกล้บ้าน ขณะที่คุณยายวุ่นอยู่กับการทำมื้อค่ำ...เวลาสี่โมงเย็นไปจนถึงตะวันตกดินนี่เป็นยามที่ดิฉันมีความสุขที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ได้ไปเล่นกับเพื่อนๆ ที่สนามเด็กเล่นในหมู่บ้าน
สนามเด็กเล่นนี้เป็นพื้นที่ขนาดสวนหย่อมเล็กๆ มีต้นไม้ ไม้ลื่น กระดานหก ชิงช้าหมุน และบาร์โค้ง...ดูสภาพแล้วก็เหมือนกับสนามเด็กเล่นทั่วๆ ไป พื้นเป็นทรายที่น่าเล่นมาก เหมือนกับชายหาดเลยละ เพราะมันสะอาดสะอ้านพอใช้
เพื่อนสนิทของดิฉันตอนนั้นคือ "น้องต๊อบ" เด็กผู้ชายอายุ 7 ขวบ ตัวเล็กนิดเดียวอยู่ป.2 คนละโรงเรียน...เป็นลูกคนเดียวเหมือนกัน อยู่ข้างบ้านนี่เอง...รั้วเดียวกันเลยล่ะค่ะ
เราเป็นเหมือนพี่น้องกันจริงๆ ทุกเย็นเราจะมาชวนกันไปเล่นที่สนามเด็กเล่นโดยมีพี่เลี้ยงของดิฉันตามไปดูแล เราไม่ค่อยยอมกลับบ้านกันหรอกค่ะ จนกว่าจะมืด เพราะมีเพื่อนคนอื่นๆ เยอะเลย ดีบ้าง ซนบ้าง เกเรบ้าง เป็นธรรมชาติของเด็กๆ
ดิฉันจะคอยดูแลไม่ให้ใครแกล้งน้องต๊อบ!
ว่ากันตามจริงแล้ว น้องต๊อบเป็นเด็กที่น่าแกล้งเพราะตัวเล็กๆ หน้าเซื่องๆ อมทุกข์อมเศร้าพิกล ตาโตนั้นดูซื่อใสบริสุทธิ์ เส้นผมละเอียดสีอ่อน ดูเผินๆ เหมือนเด็กลูกครึ่ง
น้องต๊อบมีรูปร่างหน้าตาเหมือนแม่ซึ่งบอบบาง เศร้าๆ พูดเสียงเบาๆ
เย็นวันหนึ่ง พระอาทิตย์จวนตกดินเต็มที และมันทำให้เกิดแสงสีเหลืองอมส้มอย่างประหลาดสาดส่อง จนทุกอย่างดูเหลืองไปหมด
"ผีตากผ้าอ้อม!" พี่เลี้ยงบอก ทำให้ดิฉันถามอย่างไร้เดียงสาว่าผีมีจริงๆ เหรอ? พี่เลี้ยงก็พยักหน้า ทำให้ดิฉันกับน้องต๊อบที่ยืนตาแป๋วฟังอยู่ด้วยนั้นรู้สึกกลัวๆ ขึ้นมา เราเกือบจะชวนกันกลับบ้านแล้ว เมื่อพี่พิม-เด็กผู้หญิงที่โตกว่าดิฉันชวนเราไปเล่นซ่อนหา
ดิฉันไม่อยากเล่น แต่น้องต๊อบนึกสนุก...
รอบๆ สนามเด็กเล่นเป็นสวนหย่อมที่มีพุ่มไม้ใหญ่น้อย เหมาะกับการเล่นซ่อนหามากเชียวละ เย็นนั้นมีพวกเราเล่นกันเกือบสิบคน รวมดิฉันกับต๊อบด้วย โดยมีพี่เลี้ยงของดิฉันนั่งคุยกับเพื่อนที่เป็นพี่เลี้ยงคนอื่นๆ อีก 2-3 คน
แม้จะไม่อยากเล่น แต่ไม่ช้าดิฉันก็สนุกสนาน เพลิดเพลินไปกับเพื่อนๆ จนมารู้ตัวอีกที บรรยากาศรอบๆ ก็มืดสลัวแทบมองไม่เห็นอะไรแล้ว
ในตอนนั้นเอง เรื่องร้ายก็เกิดขึ้น!
น้องต๊อบหายไป...พวกเราหากันทั่วบริเวณก็ไม่เจอ จนทุกคนตื่นตระหนก ดิฉันจำได้ว่ามันวุ่นวายโกลาหลและน่ากลัวมาก พวกผู้ใหญ่หาน้องต๊อบกันทั้งคืน แม่น้องต๊อบร้องไห้จนน่าสงสาร...มีคนเรียกยามและตำรวจด้วยค่ะ น้องต๊อบหายไปอย่างไร้ร่องรอย และมีข่าวลือหลายอย่าง บางคนอ้างว่าเห็นรถตู้สีขาวๆ แล่นเข้ามาในหมู่บ้านและแล่นออกไป...
ใครๆ ก็ว่าเห็นน้องต๊อบโดนจับตัวไปแล้ว แต่ดิฉันกับพี่เลี้ยงและอีก 2-3 คนคิดว่า อาจจะเป็นผีลักซ่อน!
จากวันเป็นสัปดาห์ และเป็นเดือน น้องต๊อบไม่กลับคืนมา พ่อแม่น้องต๊อบเสียใจมาก คุณย่าน้องต๊อบถึงกับตรอมใจตายเลยล่ะค่ะ ดิฉันร้องไห้ทุกทีที่มีคนพูดถึงน้องต๊อบ...
สิ่งที่เขาพูดมีแต่เรื่องน่ากลัว อย่างโจรคงตัดแขนตัดมือเอาน้อง ต๊อบไปนั่งขอทานบนสะพานลอย...พ่อแม่น้องต๊อบก็หาลูกแทบจะพลิกแผ่นดิน!
ดิฉันครุ่นคิด เพราะเชื่อว่าน้องต๊อบถูกผีลักซ่อน แต่มันเป็นไปได้อย่างไร? ร่างกายของน้องต๊อบจะหายไปจากโลกนี้ได้หรือ? ตอนนี้ร่างของน้องต๊อบอยู่ที่ไหน?
ที่น่าแปลกก็คือ ดิฉันมักจะมองเห็นน้องต๊อบแว่บไป แว่บมา บ่อยๆ แถวสนามเด็กเล่นบ้าง แถวประตูหน้าบ้านบ้าง และทุกทีดิฉันเห็นผู้หญิงสูงๆ ผมยาว แต่งชุดดำยืนอยู่ข้างน้องต๊อบเสมอ... เมื่อเล่าให้ผู้ใหญ่ฟัง เขาก็ทำบุญกัน บนบานศาลกล่าวกันบ้าง แต่น้องต๊อบก็ไม่กลับมา...
เขาหายสาบสูญไปเลยค่ะ!! แม่น้องต๊อบบอกว่าเชื่อในสิ่งที่ดิฉันเห็น เพราะก่อนที่ดิฉันจะเอ่ยปากเล่านั้น เธอฝันบ่อยมาก...ฝันเห็นน้องต๊อบอยู่กับผู้หญิงแต่งชุดดำ ตัวสูง ผมยาว...
สามสิบปีผ่านไป ดิฉันย้ายจากหมู่บ้านนั้นมานานแล้ว...ตอนนี้ก็แต่งงานมีลูกๆ ของตัวเองแล้วด้วย ดิฉันกำชับลูกอย่างเด็ดขาด...ห้ามเล่นซ่อนหา!
ทุกวันนี้ดิฉันยังคิดถึงน้องต๊อบและแม่ของเขาอยู่ตลอด มันน่ากลัวมากจริงๆ ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น