ป้ายกำกับ

น้ำตกตาดสูง กาฬสินธุ์


"หนูแนน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกที่น้ำตกตาดสูง กาฬสินธุ์

หนูเป็นเด็กกาฬสินธุ์ ลางคนเรียกว่า "เมืองน้ำดำ" แต่น้ำใจคนเมืองนี้ไม่ดำนะคะ ตรงกันข้าม กลับใสสะอาด ยินดีต้อนรับคนต่างถิ่นด้วยความยิ้มแย้มแจ่มใสและจริงใจทุกคนเลยค่ะ

คุณครูหนูเล่าว่า เมืองกาฬสินธุ์ในอดีตเคยเป็นดินแดนของชนเผ่าละว้ามาเมื่อหลายร้อยปีแล้ว มีทั้งโบราณสถานและวัตถุโบราณมากมาย ชาวบ้านก็ขุดพบกันบ่อยๆ อีกด้วย

"เมืองฟ้าแดดสงยาง" ที่ อ.กมลาไสย มีซากเมืองเก่าสมัยทวาราวดีที่มีอายุเนิ่นนานนับพันปี ไล่ๆ กับนครวัดนครธมในเขมรนั่นแหละค่ะ "พระธาตุยาคู" ก็เป็นปูชนียสถานศักดิ์สิทธิ์ที่ใครๆ ต่างรู้จักกันดี รวมทั้งใบเสมาหินทรายในวัดโพธิ์ชัยที่เก่าแก่พอๆ กันค่ะ


พวกผู้ใหญ่เล่าว่าตามสถานที่โบราณต่างๆ ล้วนแต่มีเจ้าที่เจ้าทางสิงสู่ บางคนเรียกผีแถนบ้าง ผีฟ้าบ้าง ผู้คนเคารพนับถือกันมาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์แล้ว

ไหนจะวิญญาณอีกมากมายที่ยังไม่ได้ไปผุดไปเกิด วนเวียนคอยดูแลบ้านเมืองและผู้คนด้วยความห่วงใยมาตลอด

พ่อแม่เคยพาหนูกับน้องๆ ไปเที่ยวเมืองฟ้าแดดสงยางและเขื่อนลำปาว คนไปเที่ยวกันเยอะแยะ ทั้งนั่งทานอาหาร กินลมชมวิวริมเขื่อน แล้วลงไปเล่นน้ำกันที่หาดดอกเกด หรือหาดสวรรค์แห่งแดนอีสาน พ่อบอกว่าพวกเราภูมิใจหาดนี้ไม่แพ้คนหนองคายเขาภูมิใจหาดจอมมณี ที่เรียกว่าพัทยาอีสานหรอกค่ะ

เกิดมาหนูยังไม่เคยโดนผีหลอกซักที แต่ก็กลัวนะคะ ไม่ใช่ไม่กลัว

วันหนึ่งเมื่อตอนปิดเทอมใหญ่ พวกเราก็ได้ไปเที่ยววนอุทยานภูผาวัว จำได้ว่านักท่องเที่ยวหนาตามากเพราะเป็นวันอาทิตย์ มีทั้งคนต่างถิ่นกับมาไกลๆ ขนาดจากกรุงเทพฯ ก็มี ได้ยินพวกเขาคุยกันค่ะ ส่วนมากจะแต่งตัวสวยๆ งามๆ ทำให้มีสีสันสดใสน่าเพลินตาเพลินใจดี

เราพากันไปชมวิวสวยๆ ของน้ำตกตาดสูงที่ส่งเสียงครึกโครมไม่ขาดสาย

วันนั้นเราไปกับญาติและเพื่อนของพ่อแม่หลายคน เด็กๆ ก็ออกวิ่งแข่งกันสนุกสนาน ไม่ค่อยแยแสเสียงร้องห้ามหรือเรียกให้รอของพวกผู้ใหญ่ บางทีชนคนอื่นบ้าง หกล้มหกลุกบ้าง เสียงผู้ใหญ่ร้องให้หยุดวิ่งแต่พวกเราไม่เชื่อหรอกค่ะ

หนูวิ่งไปชนสาวๆ กลุ่มหนึ่งเข้าพอดี เกือบจะเสียหลักหัวคะมำอยู่แล้ว แต่พี่คนหนึ่งคว้าแขนเอาไว้ได้ทัน หนูเลยเงยหน้าขึ้นยกมือไหว้ ขอบคุณเสียงหอบๆ เห็นพี่คนสวยสวมเสื้อยืดแดง นุ่งกางเกงยีน ผมยาวประบ่า ก้มลงยิ้มหวานอย่างคนใจดีพลางบอกว่า...ระวังหน่อยซีจ๊ะคนสวย เดี๋ยวหกล้มโดนแง่หินจะเสียโฉมนะจ๊ะ

แหม! หนูอายจนหน้าแดง ย่อเข่ายกมือไหว้ขอบคุณอีกครั้ง แล้วออกวิ่งตื๋อไปหาเพื่อนๆ ที่นำหน้าไปก่อนแล้ว

ในที่สุดเราก็ถึงจุดหมาย...น้ำตกตาดสูงเป็นธารหินที่มีน้ำไหลลงมาเป็นชั้นๆ ได้ยินเสียงคนชมว่างดงามจับตาเหลือเกิน นักท่องเที่ยวถ่ายรูปกันใหญ่ เสียงหัวเราะร่าเริงปนกับเสียงน้ำตกฟังแล้วมีความสุขมากๆ ค่ะ

ผู้ใหญ่เขาคุยกันว่า จากนี่เราจะไปเที่ยวน้ำตกตาดยาว เดินไกลหน่อยแต่ก็คุ้ม เพราะเป็นน้ำตกแปลกมากตรงที่มีลานหินลาดเอียงลงมาเองโดยธรรมชาติ ชอบเรียกกันว่าน้ำตกสไลเดอร์...แล้วยังไหลลงมารวมกับน้ำตกตาดสูงที่นี่อีกด้วย

ขณะนั้นเอง หนูแหงนหน้าขึ้นมองน้ำตกชั้นบน มีต้นไม้ดกหนาน่าร่มรื่น ก็พอดีเห็นผู้หญิงคนหนึ่งกำลังกระโจนละลิ่วลงมา!

หัวใจแทบจะหยุดเต้น หนูร้องตะโกนสุดเสียง แต่จำไม่ได้แล้วค่ะว่าตะโกนอะไรออกมา พวกผู้ใหญ่ก็ตกใจร้องถามว่าหนูเป็นอะไร? หนูก็ได้แต่ชี้มือไปที่ภาพน่ากลัวนั้น

ในม่านตาพร่าพราย แต่ก็เห็นได้ชัดเจนเพราะเป็นกลางวันแสกๆ หนูเห็นผู้หญิงเสื้อแดง นุ่งกางเกงกำลังลอยลงมาช้าๆ เหมือนภาพสโลว์โมชั่น...ผมยาวถูกลมแรงพัดลู่ขึ้นไปปลิวไสว ก่อนที่ร่างนั้นจะหล่นลงมาลับหายไปจากสายตา

พี่สาวใจดีที่ช่วยคว้าแขนหนูไว้ก่อนจะหกล้มหัวทิ่มกลางทางนั่นเอง!

เธอต้องไม่ตาย! หนูตะโกนลั่นๆ วิ่งไปหาอย่างไม่คิดชีวิต ได้ยินเสียงพ่อแม่ร้องเรียกแว่วๆ แต่ไม่แยแส จนกระทั่งไปถึงชะง่อนหินน้อยใหญ่ด้านล่าง หยุดหอบมองหาร่างของผู้หญิงเคราะห์ร้าย จนกระทั่งพ่อแม่กับคนอื่นๆ ตามมาทัน

เสียงถามว่าเกิดอะไรขึ้น? เป็นอะไรไป? หนูก็เล่าให้ฟังแล้วเที่ยวเดินหาร่างพี่สาวคนนั้นด้วยความเป็นห่วงสุดขีด

เชื่อไหมคะว่าไม่มีวี่แววของเธอเลย

ไม่มีศพ ไม่มีร่างคนเจ็บ นอกจากผู้คนที่มาชมวิวและถ่ายรูปกัน หนูบอกพ่อแม่ว่าเห็นผู้หญิงกระโจนลงมาจากชั้นบนนั้น แต่เธอหายไปไหนแล้วก็ไม่รู้

แม่ทำหน้าไม่ค่อยดี เล่าว่าที่นี่มีคนตกลงมาตายบ้าง ฆ่าตัวตายบ้าง...แต่หนูคงตาฝาดไปเองมากกว่า หรือไม่ก็นึกฝันไปเองแบบเด็กๆ คิดแล้วหนูก็อยากให้เป็นแบบนั้น แต่ทำไมนึกถึงแล้วขนลุกทุกทีก็ไม่ทราบค่ะ

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เรื่องผี ที่ได้รับความนิยม