"ณิษา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากรูปถ่ายเก็บตก
สาวใช้วัยสิบเก้าของดิฉันชื่อ หนิง เป็นสาวร้อยเอ็ดตัวเตี้ยเล็ก หน้าแก่เกินอายุ แต่อารมณ์ขันน่ารักเป็นนักหนา คุยเก่ง ร่าเริงแจ่มใส ทว่าตั้งแต่ไปเยี่ยมบ้านครั้งล่าสุดเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาเธอก็เปลี่ยนไป...
เปลี่ยนอย่างน่าขนหัวลุกทีเดียวค่ะ!
หนิงขอลากลับไปเยี่ยมแม่เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม และกลับมาในวันที่ 10 ดูท่าทางเหน็ดเหนื่อยมาก แต่ก็อุตส่าห์เอากระเป๋ามารื้อเพื่อหยิบของฝากให้ดิฉัน...แหม! เห็นแล้วถูกใจจริงๆ ของฝากนั้นเป็นผ้าที่แม่ของหนิงทอมากับมือ
ขณะที่หนิงดึงผ้าออกจากกระเป๋า ก็มีรูปถ่ายใบหนึ่งร่วงลงมาด้วย ดิฉันก้มลงเก็บรูปนั้น มันเป็นรูปขาวดำขนาด 2 คูณ 2 นิ้ว แบบที่คนสมัยก่อนใช้ติดบัตรสมัครเรียน หรือสมัครงาน รูปนั้นไม่ใช่หนิง แต่เป็นเด็กสาวคนหนึ่ง ใบหน้ากลม ตาโต ดำมาก ปากอิ่มหนา น่ารัก อายุคงไม่เกิน 15-16 ผมยาวตรง หวีแสกข้างติดกิ๊บ
ดิฉันถามว่ารูปใคร หนิงยิ้มๆ แล้วตอบเฉยเลยว่า "ไม่รู้ค่ะ หนูเก็บได้ที่สถานีรถไฟ ที่จริงมันตกอยู่ตรงรางรถไฟน่ะ เห็นสวยดีเลยเก็บมาดูเล่น"
ดิฉันฟังแล้วขนลุกเกรียวขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล!
ทำไมต้องขนลุกด้วยนะ? มันอาจเป็นรูปที่เจ้าของทำตก ขณะเดินข้ามทางรถไฟ หรืออาจปลิวตกจากชานชาลา
นัยน์ตาดำขลับในภาพนั้นจ้องดิฉันราวกับมีชีวิต ต้องรีบส่งรูปคืนให้หนิงแล้วดุว่า...ไปเก็บของใครมาก็ไม่รู้! หนิงรับรูปแล้วยืนยันว่าจะเอาไว้ดูเพราะน่ารักดี
แค่นี้ก็ยังไม่น่ากลัวเท่าไหร่หรอกค่ะ อีก 2-3 วันต่อมานี่ซิ ดิฉันจะไปหยิบเสื้อที่หนิงรีดไว้ เธอขอเอาเสื้อผ้าเข้าไปรีดในห้องของเธอ เพราะจะได้ฟังวิทยุไปด้วย ขณะรีดผ้าอย่างสบายอารมณ์ ดิฉันอนุญาต เสียอย่างเดียว บางทีเธอก็ลืมเอาผ้าที่รีดแล้วมาให้ ดิฉันเลยต้องตามลงไปหยิบเองบ่อยๆ
วันนั้น พอเปิดประตูดิฉันถึงกับผงะ...หนิงนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง เอียงคอจ้องมองรูปที่ผนังห้อง
คุณพระช่วย! อะไรกันนั่น...
รูปถ่ายขนาด 2 คูณ 2 ใบนั้น หนิงเอาไปให้ร้านขยายแล้วใส่กรอบอย่างดี เห็นแล้ว...วูบแรก ดิฉันเห็นมันเป็นรูปถ่ายหน้าศพ!
หนิงหันมามองดิฉันเหมือนไม่รู้จักอยู่ 2-3 วินาที แล้วก็ได้สติ หยิบผ้าที่รีดไว้เรียบร้อยแล้วส่งให้ดิฉัน ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกมาก เพราะปกติหนิงจะต้องกระวีกระวาดขนเสื้อผ้าขึ้นไปเก็บให้ตามแบบฉบับคนรับใช้ที่ดี แต่นี่ส่งให้นายเก็บเองซะงั้น
มันผิดวิสัยคนรับใช้อย่างหนิงมากเลยค่ะ!
อาการหลงรูปของหนิงเป็นเอาหนักยิ่งขึ้นทุกวันๆ เธอขลุกอยู่แต่ในห้อง จ้องมองแต่รูปนั้น เกิดอะไรขึ้นคะ? หนิงรักผู้หญิงด้วยกันเรอะ?
ดิฉันใจหายวาบ...ผู้หญิงในรูปคือใครกันแน่?!
เรื่องนี้คุณแม่ดิฉันก็ทราบ ท่านบอกว่าไม่ธรรมดาแล้วล่ะ เด็กสาวในภาพทีแรกก็ดูน่ารักดี แต่ถ้าจ้องมองนานๆ จะรู้ว่าเธอน่ากลัวมาก ดวงตานั้นดำผิดปกติ ยิ่งหนิงเอาภาพไปขยาย มันก็ยิ่งดูเหมือนมีชีวิต มีวิญญาณสิงอยู่ในภาพนั้น
หนิงไม่เป็นตัวของตัวเองเลย เธอเหมือนคนบ้าไปแล้ว แม้จะยังทำงานได้ ทำหน้าที่ต่างๆ ไม่บกพร่อง แต่ก็ไม่เป็นคนเดิมอีกต่อไป...เธอเลื่อนลอย เศร้าสร้อย
ในที่สุด ดิฉันโทร.ไปหานง พี่สาวของหนิง ที่เป็นช่างทำผมในกรุงเทพฯ นี่เอง นงติดต่อทางบ้าน เล่าให้แม่และลุง ป้า น้า อา ฟัง ลุงของหนิงเดินทางมาถึงบ้านดิฉันวันรุ่งขึ้นเลย ชื่อลุงแก่น แกเป็นคนมีวิชาอาคมด้วยซิคะ
พูดง่ายๆ ก็คือแกรู้วิชาคุณไสย และนั่งทางในได้ด้วยค่ะ
ลุงแก่นบอกว่านี่เป็นภาพของคนที่ตายไปแล้ว แถมตายไม่ดีด้วย! ตอนที่พูดน่ะ ลุงแก่นอยู่กับดิฉันที่บ้านใหญ่นะคะ ส่วนหนิงอยู่ในห้องที่เรือนเล็ก...ทันทีที่ขาดคำของลุงแก่น เสียงหนิงก็กรี๊ดโหยหวน พวกเราสะดุ้งตกใจรีบวิ่งไปดู
ใช่ค่ะ หนิงถูกผีเข้า! เธอหลังตาแต่น้ำตาไหลเป็นทาง มือกำเกร็ง แข็งไปทั้งตัว ลุงเป็นคนถามเรื่องราว ก็ได้ความว่าผีที่มาสิงคือผู้หญิงในรูปนั้นเอง!
เธอไม่ได้ถูกรถไฟชนตาย หรืออะไรทำนองนั้น แต่เธอถูกหลอกโดยคนที่ได้พบกันที่สถานีรถไฟ ให้ไปไต้หวันเพื่อทำงานได้เงินเยอะๆ ตั้งแต่นั้นก็ไม่มีใครพบเจอเธออีกเลย
ผีที่สิงหนิงไม่ได้บอกว่าเธอตายอย่างไร อย่างน้อย...แน่ล่ะค่ะ เธอเป็นผีอยู่นี่ก็แปลว่าชีวิตเธอหาไม่เสียแล้ว! ลุงแก่นถามว่าต้องการอะไร? คำตอบคืออยากกลับบ้าน
แล้วเธอก็ร้องไห้โหยหวน ฟังแล้วขนลุกซู่ เยือกเย็นเข้าไปถึงขั้วหัวใจ...ในที่สุดก็ออกจากร่างหนิง แล้วจากไปเลยล่ะค่ะ
เป็นอันว่าเรารู้เพียงแค่นั้นจริงๆ ลุงแก่นเก็บรูปของหญิงสาวปริศนากลับไป
หนิงต้องพักฟื้นทั้งร่างกายและจิตใจ เราพาเธอทำสังฆทาน รดน้ำมนต์
นี่เป็นบทเรียนหลายๆ อย่างแก่เรา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องมนุษยธรรม ดิฉันสงสารเด็กสาวคนนั้นที่สุด ทุกวันนี้ยังทำบุญถึงเธอเสมอ ทั้งใส่บาตร กรวดน้ำ อุทิศส่วนกุศลผลบุญไปให้
ดิฉันคงทำได้เพียงเท่านั้นเอง...
ref.ข่าวสด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น