ป้ายกำกับ

บริษัทสยอง

"ปวัตต์" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากสี่พระยา

บริษัทประกันภัยที่ผมทำงาน อยู่แถวสี่พระยานี่เองครับ ความเจริญไม่ต้องพูดถึงก็ได้ เพราะเป็นย่านธุรกิจการค้าที่ใหญ่เป็นอันต้นๆ ของกรุงเทพฯ มาหลายสิบปีแล้ว

ตอนเที่ยงๆ พนักงานบริษัทและห้างร้านกรูเกรียวกันออกไปหามื้อเที่ยงกิน มองจากตึกสูงๆ เห็นแต่หัวดำๆ เหมือนมดเหมือนปลวกไม่มีผิด

เฉพาะ บริษัทผมแห่งเดียวก็ปาเข้าไปตั้งเกือบ 100 คน! เมื่อราว 2-3 ปีก่อน เกิดเรื่องสยองติดๆ กัน คือพนักงานสาวกินยาตายในห้องน้ำ สาเหตุจากปัญหาท้องไม่มีพ่อ กับอกหักกระโดดตึกที่หนังสือพิมพ์เขาเรียกว่า "โหม่งโลก" ฆ่าตัวตายนั่นแหละครับ ตึกสูงสิบกว่าชั้นจะไปมีอะไรเหลือล่ะ?

"พี่แอ๋ว" ผู้ช่วยฝ่ายการเงินไปเข้าห้องน้ำ เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มหมดสติ กว่าจะมีคนไปพบและนำส่งโรงพยาบาล พี่แอ๋วก็กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่เกือบหนึ่งเดือนก่อนจะสิ้นชีวิต

ลูกเนรคุณ

หลวงพ่อ เติม เมธีวังโส ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดทรายมูล บ้านแดงใหญ่ ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ท่านบอกว่าในตอนเป็นหนุ่ม ท่านได้ไปพบ ไปเห็นคนที่โดนวิบากกรรม เล่นงานมาจนถึงตาย และอีกสามชีวิต ต้องตกระกำ ลำบาก ไปตามๆกัน
ตอนนั้นหลวงพ่อยังเป็นฆราวาสอยู่ อายุประมาณ ๑๐ กว่าปี ได้พบกับ เหตุการณ์ อันน่าสลดใจ คือ...

นาง เนียนลูกสะใภ้หลังจากมีลูกสองคนแล้ว ก็เกิดความขี้โลภ อยากได้สมบัติ มาเป็นสมบัติของตน แต่เพียงผู้เดียว ด้วยความคิดกลัวไปว่า จะแบ่งปัน สมบัติ ที่มีอยู่นี้ ให้กับพี่ชายของสามี นางเนียนจึงพยายาม หาเรื่องต่างๆนานา ฟ้องผู้เป็นสามี อยู่เสมอๆ ด้วยการโกหกว่า "พ่อส่วยแม่สาย มาบ่นมาด่าจู้จี้จุกจิกบ่อยๆ ฉันน่ะรำคาญ หากยังขืนบ่น ขืนว่าฉันอีก ฉันว่าควรจะแยกกันอยู่เสียดีกว่า"

หนุ่มหลอนมอบตัว วิญญาณตาม สารภาพเคยฆ่าคน



หนุ่มสตูลสติแตก ถูกวิญญาณตามหลอน เดินร้องไห้ขึ้นโรงพักให้ตำรวจจับใส่กุญแจมือ สารภาพเคยฆ่าเพื่อนตายเมื่อเดือน ก.ย. 53 เพราะแค้นที่ดื่มกินด้วยกัน แต่ไม่ยอมออกเงินจนต้องเอา จยย.ไปจำนำจ่ายค่าเหล้า ตร.เร่งสรุปสำนวนส่งฝากขังทันที...

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณี พ.ต.ท.จักรพันธุ์ คงแก้ว สว.เวร สภ.เมืองสตูล จ.สตูล รับแจ้งพบศพนายมูฮัมหมัดเฮรี เต๊ะปูยู อายุ 18 ปี ถูกทุบด้วยของแข็งและนำศพไปทิ้งที่สะพาน ม.1 ต.เจ๊ะบิลัง อ.เมืองสตูล เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 12 ก.ย. 53 ล่าสุด นายจีระศักดิ์ หมาดเต๊ะ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 ม.13 ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล อาชีพรับจ้างกรีดยางพารา ได้เดินร้องไห้ขึ้นไปพบตำรวจบนโรงพัก สภ.ฉลุง อ.เมืองสตูล ขอมอบตัวในคดีฆ่าคนตายที่ตัวเองเคยก่อเหตุไว้ เมื่อตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นคดีที่เกิดขึ้นในท้องที่ สภ.เมืองสตูล จึงได้แจ้งให้ พ.ต.ท.จักรพันธุ์มารับตัวนายจีระศักดิ์ไปสอบปากคำ

โผล่อีกดวงไฟปริศนาชาวแปดริ้วเชื่อเป็นกระสือ

ตะลึง!กระสือเมืองแปดริ้วโผล่อีก ผู้ร่วมพิสูจน์นับสิบเห็นกันจะ ๆ แห่วิ่งกรูเข้าไปถ่ายภาพก่อนดวงไฟปริศนาหายวับไปกับตา

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่หมู่บ้านหนองปาตอง หมู่ 2 ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีชาวบ้านลำลือกันว่า พบผีกระสือออกหากินตอนกลางคืน ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายณะเรศ สุดชื่น อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160/2 และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองยาว เปิดเผยว่า ชาวบ้านสงสัยหญิงสูงวัยคนหนึ่งในพื้นที่ว่าจะเป็นผีกระสือ เนื่องจากลูกชายไปเรียนวิชาไสยศาสตร์มาจากอีสาน ก่อนมาเป็นร่างทรงเลี้ยงภูตผีเอาไว้ และมักจะเอาเลือดหมู เลือดไก่ มาเซ่นไหว้ประจำ ต่อมาได้หายตัวออกจากบ้านไป แต่จู่ๆก็มีคนพบเห็นดวงไฟลอยออกมาจากบริเวณบ้านของชายคนดังกล่าวเป็นประจำ จึงลำลือกันว่าเป็นผีกระสือ ซึ่งสิงอยู่ในร่างของแม่คนเข้าทรง

หลวงปู่หลอด ปโมทิโต เผชิญอำนาจวิญญาณร้ายเข้าสิง

หลวงปู่หลอด ปโมทิโต ในวัยชราท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ในวัยฉกรรจ์... พระเถราจารย์ท่านนี้ยึดถือธุดงค์เป็นวัตรตลอดเวลา ๙ เดือนของกาลออกพรรษาเป็นเวลานับ ๑๐ ปี

ตลอดเวลาอันยาวนานซึ่งหลวงปู่หลอดจาริกสู่ป่าเขาอันเปล่าเปลี่ยว ห่างไกลจากผู้คนพลุกพล่านและร้อนเร่าด้วยไฟกิเลส ก็เพื่อพารูปกายสังขารนี้ไปสู่ความวิเวก มุ่งหน้าฝึกจิตด้วยการปฏิบัติสมณธรรมอย่างอุกฤษฏ์ มุ่งมั่นตัดขาดปวงกิเลสทั้งหลายซึ่งเกาะติดจิตวิญญาณข้ามภพข้ามชาติเหลือที่จะนับมาแล้วให้จงได้

และในห้วงเวลาดังกล่าวนั้น หลวงปู่หลอดได้เผชิญกับประสบการณ์ซึ่งไม่ผิดกับพลังแห่งสัจจธรรมที่หล่อหลอมดวงจิตให้แข็งแกร่งภายใต้สติอันมั่นคง
ดังเช่นการเผชิญกับเสือเป็นครั้งแรกในชีวิตของท่าน

"เสือ" ...เดรัจฉานผู้ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น "จ้าวป่า" คือสัตว์กินเนื้อที่น่ากลัวที่สุด อานุภาพน่าพรั่นพรึงสุดขีดของมันจะปรากฏให้เห็นขณะออกล่าเหยื่อหรือได้รับบาดเจ็บ หรือจนตรอก
เพียงแค่เสียงเสือคำรามสะท้อนสะท้านมาให้ได้ยิน ส่ำสัตว์ในป่าดิบดงลึกก็แตกตื่นหนีกันกระเจิง

เทพเจ้าอู่ทอง และ ผี ที่พุทไธสวรรค์

ยังมีเรื่องราวอันเป็นเรื่องเล่าของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในเขตเมืองกรุงเก่าหรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เพราะเคยเป็นสถานที่พำนักแห่งแรกของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา องค์ที่ 1 คือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง สถานที่ที่ว่านี้อยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยา แต่เดิมเรียกว่า "เวียงเหล็ก" ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดพุทไธสวรรย์ ที่นี่เล่าขานกันว่าเป็นสถานที่รวมของความศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพและวิญญาณหลายตน ซึ่งสถิตย์อยู่และแสดงฤทธิ์แสดงอาถรรพณ์ให้บังเกิดต่างๆนานา

หากใครเคยไปเที่ยววัดพุทไธสวรรย์ คงจะเคยไปสักการะ "เทพพระเจ้าอู่ทอง" ที่ประดิษฐานอยู่ตรงผนังด้านนอก ด้านซ้ายของพระปรางค์องค์ใหญ่ "เทพพระเจ้าอู่ทอง" เป็นพระพุทธรูปยืนขนาดเท่าคนจริง หรือพระพุทธรูปองค์นี้จะมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ซึ่งพระเจ้าอู่ทองสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระราชมารดาของพระองค์เทพ หรือ "เทพารักษ์พระเจ้าอู่ทอง" มีประวัติว่าสร้างมานานนับร้อยๆปีเพื่อเป็นเทพารักษ์ ประจำพระนคร ให้ชาวเมืองสักการะ โดยแต่เดิม ประดิษฐานอยู่ที่หอพระเทพบิดร ภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์ ครั้นเสียกรุงเมื่อ พ.ศ. 2310 ไฟไหม้วัดพระศรีสรรเพชญ์ เสียหายหมด
ภายหลังจึงได้อัญเชิญ พระเทพบิดรไปปฏิสังขรณ์แล้วนำไปประดิษฐาน ณ พระปรางค์วัดพุทไธสวรรย์
ครั้นปี พ.ศ. 2327 สมัยรัชกาลที่ 1 พระเจ้าลูกเธอกรมหมื่นเทพพลภักดิ์คุมกรมพระคชบาล เสด็จออกไปซ่อมเพนียดที่กรุงศรีอยุธยา ทรงพบพระพุทธธูปพระเจ้าอู่ทอง จึงกราบทูลรัชกาลที่ 1 ขออัญเชิญลงมากรุงเทพฯ และโปรดให้เปลี่ยนรูปใหม่เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องหุ้มด้วยเงินทั้งองค์ และให้หล่อพระพุทธรูปพระเจ้าอู่ทองขึ้นใหม่เป็นทองสำริดลงรักปิดทองทรงเครื่องน้อย

เรื่องผี ที่ได้รับความนิยม