ป้ายกำกับ

ลูกเนรคุณ

หลวงพ่อ เติม เมธีวังโส ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดทรายมูล บ้านแดงใหญ่ ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ท่านบอกว่าในตอนเป็นหนุ่ม ท่านได้ไปพบ ไปเห็นคนที่โดนวิบากกรรม เล่นงานมาจนถึงตาย และอีกสามชีวิต ต้องตกระกำ ลำบาก ไปตามๆกัน
ตอนนั้นหลวงพ่อยังเป็นฆราวาสอยู่ อายุประมาณ ๑๐ กว่าปี ได้พบกับ เหตุการณ์ อันน่าสลดใจ คือ...

นาง เนียนลูกสะใภ้หลังจากมีลูกสองคนแล้ว ก็เกิดความขี้โลภ อยากได้สมบัติ มาเป็นสมบัติของตน แต่เพียงผู้เดียว ด้วยความคิดกลัวไปว่า จะแบ่งปัน สมบัติ ที่มีอยู่นี้ ให้กับพี่ชายของสามี นางเนียนจึงพยายาม หาเรื่องต่างๆนานา ฟ้องผู้เป็นสามี อยู่เสมอๆ ด้วยการโกหกว่า "พ่อส่วยแม่สาย มาบ่นมาด่าจู้จี้จุกจิกบ่อยๆ ฉันน่ะรำคาญ หากยังขืนบ่น ขืนว่าฉันอีก ฉันว่าควรจะแยกกันอยู่เสียดีกว่า"



"หากพี่รอง ไม่จัดการแยกให้พ่อแม่ไปอยู่ที่อื่น ฉันจะพาลูกๆกลับไปอยู่บ้านกับพ่อแม่ฉันนะ"กลัวเมีย จะพาลูกๆ ทั้งสอง หนีจากไป

ตอนแรกนายรองพูดกับพ่อแม่ว่า "อยากจะให้พ่อแม่ย้ายออกจากบ้านหลังนี้ไปอยู่ที่อื่น"
ผู้เป็นพ่อและแม่ก็บอกว่า "จะให้พ่อแม่ย้ายออกไปอยู่ไหน บ้านช่องเรือนชานนี้ ก็เป็นบ้านของพ่อแม่ พากัน ก่อสร้างขึ้นมา สมบัติต่างๆ แม้เรือกสวนไร่นา วัวควาย ก็ล้วนแต่ ของพ่อแม่ หามากับมือแท้ๆ จะให้ พ่อกับแม่ ไปได้อย่างไร"

ทุกเช้าทุก เย็น ก็มักจะได้ยินเสียงพ่อลูกคู่นี้ทะเลาะกันเป็นประจำ บางครั้ง จะได้ยินเสียง ของแม่ ร้องห่ม ร้องไห้ ขอร้องว่า "อย่าไล่พ่อและแม่ ออกจากบ้านไปเลยนะ พอพ่อแม่ตาย สมบัติต่างๆ ก็จะเป็นของพวกเจ้า ทั้งสอง เท่านั้นเอง"

มีอยู่หลายครั้งหลายครา ที่พ่อและแม่ไปหาคนเฒ่าคนแก่ในหมู่บ้าน เอามาอบรมสั่งสอน เจ้าลูกชาย และ ลูกสะใภ้คู่นี้

"การที่ลูกมาดุด่าพ่อแม่ โดยมาไล่พ่อแม่ให้หนีออกไปจากบ้าน มันไม่สมควรหรอก จะเป็น บาปกรรม เป็นเวร และเป็นภัย มาถึงตัวทีหลังนะ
บาปอะไรก็ไม่บาปหนักเท่าบาปที่ทำกับพ่อแม่ ตายไปก็จะไปตกนรกอเวจีทีเดียวนะ"

พวกชาวบ้าน จึงพากันหาไม้มาสร้างบ้านหลังหนึ่ง ในที่สาธารณะท้ายหมู่บ้าน เป็นบ้าน หลังน้อย กะทัดรัดดี ก็ไปเชิญพ่อส่วยแม่สาย ให้มาอยู่อาศัย สองตายาย แม้ไม่อยาก จากไป แต่ก็จำใจยอมจากไป เพราะอยาก จะให้ปัญหา มันหมดไป ลูกชายลูกสะใภ้ ไม่เคยหา อาหารมาให้กินเลย เรื่องนี้จึงตกเป็นภาระ ของชาวบ้าน จะพากันมาส่ง ข้าวปลาอาหาร ตายายคู่นี้

ส่วนที่บ้านลูกชายและลูกสะใภ้ของสองตายาย พวกชาวบ้านพากันรังเกียจ จึงไม่ค่อยมีใครไปคบค้าสมาคม จะมีก็แต่พวกขี้เหล้า เมายา พวกนักเลงการพนันเท่านั้น

เมื่อบ้านน้อยอยู่ริมทุ่ง ยามลมหนาวพัดมา ก็ไม่มีบ้านหลังอื่น บังลมหนาวให้ จนทำให้สองตายายคู่นี้ ทนไม่ได้ ถึงกับหนาวตาย ด้วยกันทั้งคู่

ผู้เป็นลูกชายคนโตและชาวบ้าน ช่วยกันจัดการงานศพให้ ส่วนลูกชาย คนที่สอง และนางเนียน ลูกสะใภ้ ไม่เคยมาเหลียวแลเลย สมแล้วที่เรียกว่า "ลูกเนรคุณ"

หลวงพ่อเติมท่านก็พูดถึงวิบากกรรมที่ลูกทำกับพ่อและแม่ว่า "มันเป็นกรรมหนัก (อนันตริยกรรม) ดูแต่พระมหาโมคคัลลาเถระ ที่อดีตชาติ เคยฆ่าพ่อแม่ ตาบอดตาย เพราะคำยุยง ของเมีย ผลของบาปกรรม ส่งผลให้ไปตกอยู่ในนรก หลายแสนปี แม้เศษบาปกรรม ที่เหลืออยู่ เมื่อมาเกิดเป็นคน ก็ยังต้องถูกฆ่า ถูกทุบถูกตี อีกตั้ง ๑๐๐ ชาติ เลยทีเดียว"

หลังจากที่ สองตายายตายไปแล้ว พวกนักเลงทั้งหลายก็หมดความเกรงใจ อีกต่อไป จึงพากันไป ที่บ้านนายรอง และนางเนียน เพื่อต้องการหลอกล่อ เอาทรัพย์สมบัติ ตอนแรกก็ทำทีไปชื่นชม ยินดีกับความมั่งมี แล้วก็ชักชวน ให้มากินเหล้า ปกติก็ไม่มีใครมาสนใจ พอเห็นพวกขี้เหล้า มาชื่นชมก็ดีใจ จัดข้าวปลา อาหาร มาให้พวกเขากินกัน

ต่อมาก็ชักชวนสองผัวเมีย เล่นการพนัน ทำทีเป็นเล่นเสีย เพื่อเป็นการอ่อยเหยื่อ ให้สองผัวเมีย คู่นี้ตายใจ แล้วเขาก็ชักชวน ให้ออกไปเล่น กันที่อื่น

หลายปีต่อมา ข้าวของเงินทองที่เขามีอยู่ก็ร่อยหรอลง
"ก็เป็น ธรรมดานะ" หลวงพ่อเติมว่า "ในเมื่อทรัพย์สมบัตินี้โกง เอามาจากพ่อแม่ พวกนัก การพนัน ก็มาโกงต่อ มันเป็นวิบากกรรม ของนายรองเขา เสมือนหนึ่ง กงกรรมกงเกวียน หมุนวน หมุนเวียน

เขากลุ้มใจ กินเหล้าหนักขึ้นไปอีก ข้าวปลาอาหารก็ไม่ค่อยกิน การงาน ก็ไม่เป็นอันทำ

ทุกคืน..... พวกชาวบ้านมักจะได้ยินเสียงผัวเมียคู่นี้ทะเลาะกัน เรื่องทรัพย์สมบัติ ที่ผัวเอาไป สูญหายกับ เล่นการพนัน แต่นายรอง โดนวิบากกรรมบังตา บังใจเอาไว้เสียแล้ว ไม่นานเงินที่ได้ จากการจำนองบ้าน และที่ดิน ก็หมดไป

เขากลุ้มใจหนักขึ้นไปอีก กินเหล้าเมามายทุกวัน พอเมาแล้วก็เหมือนคนเสียสติ มักจะพูดว่า "เอาสมบัติของกูคืนมา เอาสมบัติของกูคืนมา"
วันหนึ่งในฤดูหนาวเขาได้เดินหายออกจากบ้านไป กลายเป็นศพ นอนหนาวตายอยู่ข้างทางในหมู่บ้านนั้นเอง สันนิษฐานว่า เขาเมาหนัก ไม่มีแรงเดิน จึงยึดเอาข้างถนนเป็นที่หลับนอน และเพราะ ความหนาวเย็น ของฤดูหนาว เขาจึงหนาวตาย ในที่สุด

"นี่แหละหนอ กรรมที่เขาเคยทำเอาไว้กับพ่อแม่อย่างไร ผลของกรรมนั้น มันก็ย้อน มาสนองเขา เช่นกัน" หลวงพ่อเติมกล่าว

ส่วนนางเนียน บัดนี้ทรัพย์สมบัติที่เคยขี้โลภโกงเอามานั้น มันได้อันตรธานหายนะ ไปหมดแล้ว แม้กระทั่ง นายรองสามีของนาง ก็มาตายไป นางเนียน จึงพาลูกน้อยทั้งสอง หอบหิ้ว กันเดินทาง กลับไปอยู่กับพ่อแม่ ที่บ้านเก่า


http://www.asoke.info/09Communication/
DharmaPublicize/Sanasoke/sa256/111.html

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เรื่องผี ที่ได้รับความนิยม