พิษณุโลก - ศิษย์สำนักสงฆ์เขาฤๅษีเมืองสองแคว เจอ “สมบัติปู่โสม” ในถ้ำวังทอง แต่เก็บไว้กับตัวเองไม่ได้ เจออาถรรพ์ทุกคืน เลยต้องมอบให้พ่อเมืองพิษณุโลก เผย มีทั้งพระพุทธรูปเชียงแสน-สิงห์ 1 อายุร่วมพันปี ล่าสุด “ปรีชา เรืองจันทร์” ผู้ว่าฯ เตรียมจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เร็วๆ นี้
วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก พระนิพนธ์ ฉนฺตจิตฺโต จากสำนักสงฆ์เขาฤๅษี ต.ชัยนาม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้นำโบราณวัตถุอายุหลายร้อยปีจำนวน 21 ชิ้น เช่น พระพุทธรูปเชียงแสนขนาดต่างๆ กริช, ดาบ ของใช้ศาสตราวุธของคนในสมัยโบราญ ที่เชื่อกันว่า เป็นชนชั้นปกครอง มามอบให้ นายปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.พิษณุโลก เพื่อเก็บไว้เป็นสมบัติของชาติต่อไป
พระนิพนธ์ ฉนฺตจิตฺโต บอกว่า ลูกศิษย์ไปเจอที่ถ้ำแห่งหนึ่งในพิษณุโลก เมื่อเดือนเศษที่ผ่านมา โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อและสถานที่ที่พบ ทราบว่า ไปเจอกริชเล่มแรกบริเวณพื้นที่ไร่มันสำปะหลัง ใกล้กับถ้ำแห่งหนึ่ง ซึงมีก้อนหินปิดปากถ้ำอยู่ เกิดความสงสัย จึงใช้รถไถดันก้อนหินออก แล้วเข้าไปสำรวจภายในถ้ำ ก็เจอโบราณวัตถุเหล่านี้กองอยู่ในถ้ำ ลูกศิษย์คนดังกล่าวจึงนำกลับไปเก็บไว้ที่บ้าน แต่ก็ประสพกับอาถรรพ์ ปู่โสมมาทวงสมบัติคืนทุกวัน จนอยู่ไม่ได้ จึงต้องนำสมบัติโบราณมามอบให้อาตมา
พระนิพนธ์ บอกอีกว่า เมื่อเก็บไว้ที่บ้านแล้วร้อนอยู่ไม่ได้ เพราะลูกศิษย์ได้ยินเสียงคนลากของดังทุกคืน จึงเกิดความกลัว จึงมอบให้อาตมาเก็บไว้วัด เพราะดูแล้ว น่าจะเป็นของเจ้าเมือง ของกษัตริย์ใช้ อาตมาจึงนำมามอบให้ผู้ว่าฯวันนี้ เพื่อเก็บรักษาเป็นสมบัติของชาติต่อไป
“ประเมินแล้ว สมบัติเก่าอายุเก่ามาก แต่ไม่รู้กี่ปี”
และระหว่างติดต่อมอบให้ผู้ว่าฯ ก็ปรากฏว่า สุนัขของทนายความก็มีอาการแปลกประหลาด ไปเห่าหน้าห้องที่เก็บของด้วย
นายปรีชา เรืองจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า เท่าที่สังเกตแล้วเป็นโบราณวัตถุชนชั้นปกครองสมัยโบราณใช้ แต่ตนไม่มีความรู้เรื่องนี้มากนัก ต้องให้วัฒนธรรมจังหวัด มาลงรับ ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นหลักฐาน และเก็บรักษาไว้ แต่ที่แน่ๆ ทราบว่า พระพุทธรูปเชียงแสน-สิงห์ 1 นั้น มูลค่าสูง ประเมินมูลค่ามิได้ ล่าสุด กำลังประสานให้กรมศิลปากรมาพิสูจน์ว่าเป็นศิลปะสมัยใด พร้อมจะนำไปจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่กำลังดำเนินก่อสร้างในพระราชวังจันทน์ต่อไป
อ้างอิง http://manager.co.th/Local/ViewNews.aspx?NewsID=9540000069482
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น