ป้ายกำกับ

ผีย้ายวัด

"หนูแนน" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากวัดอินทารามวรวิหาร

หนูเป็นเด็กวัดกลางค่ะ หรือวัดอินทาราม ที่มีรูปพระเจ้าตากสินขี่ม้าชูดาบอยู่เหนือประตู ก่อนถึงวัดกลางจะเป็นวัดเวฬุราชิน ถ้าเลยบ้านหนูไปก็คือวัดจันทราราม พวกเราถึงเรียกว่าวัดกลางไงคะ

เรื่องนี้แปลกอย่างที่ญาติๆ หนูแถวภาษีเจริญเขาบอกไม่ใช่หรอก พวกเขาเรียกวัดอินทารามว่าวัดใต้ หนูก็งง ไม่รู้จะถามใคร

ชื่อนั้นสำคัญไฉน?

แม้เรียกกุหลาบว่าชื่ออื่น ดอกของมันก็ยังหอมใช่ไหมคะ!

หนูอ่านเจอในหนังสือน่ะค่ะ ไม่ใช่คิดเองหรอก เดี๋ยวจะเข้าใจผิด นิสัยหนูชอบอ่านภาษิตคำคม บางทีก็ต้องจดไว้กันลืม อย่างเช่น

"ถึงจะปิดทองหลังพระ ก็ทำให้ท่านเป็นสุขได้เหมือนกัน"

"ท้องทะเลมีขอบเขต แต่ความต้องการที่ลึกซึ้งไม่มีขอบเขตเลย"

"แพ้อย่างนักกีฬา ดีกว่าชนะอย่างอันธพาล"

"ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ จำไว้เท่านี้ก็พอ"

แหม...หนูก็เขียนเพลินไปหน่อย บังเอิญหนูชอบคำคมเอาไว้สอนใจตัวเองค่ะ บางทียังจดไปให้เพื่อนๆ แต่เขาไม่สนใจกันหรอก บางคนอ่านแล้วก็แค่ยิ้มๆ บางคนหัวเราะแบบขำกลิ้งเลย แต่บางคนบอกว่า ขอบใจย่ะ ยัยบ้า!

เพื่อไม่ให้เสียเวลากับเรื่องส่วนตัวของหนูเอง ขอเล่าประสบการณ์ขนหัวลุกให้ท่านฟัง (อ่าน) เลยนะคะ

เมื่อก่อนวันอินทารามบางยี่เรือผีดุมากที่สุด ไม่ว่าใครๆ เอ่ยถึงก็ทำท่าขนลุกขนพองกันทั้งนั้นแหละค่ะ คือมีประวัติว่าเขาเอาคนที่วางเพลิงเผาตลาดพลูมายิงเป้าที่หน้าวัดน่ะซีคะ มีตั้ง 2 คนแน่ะ เป็นพี่น้องหรือแซ่เดียวกัน พวกชาวบ้านอุ้มลูกจูงหลานมาดูกันมืดฟ้ามัวดินเลยละค่ะ

ตำรวจทหารก็มากันเต็ม คอยกั้นไม่ให้คนล้ำเข้าไปในเขตประหาร!

ทำไมเขาไม่ยิงเป้าในคุกบางขวางน่ะหรือคะ เขาบอกว่าต้องยิงเป้าให้ผู้คนในที่สาธารณะ พวกโจรผู้ร้าย ปล้น ฆ่า ข่มขืน วางเพลิง จะได้เกรงกลัว ไม่กล้าก่อกรรมทำเข็ญให้คนดีๆ ต้องเดือดร้อนอีกต่อไป

อาจจะได้ผลนะคะ เพราะผู้ร้ายยุคนั้นหัวหดไปตามๆ กัน ใครใส่ทองเดินฉุยฉายก็ไม่ต้องกลัวโดนกระชากหรือฆ่า สาวๆ เดินตามตรอกซอยกลางค่ำกลางคืนก็ไม่ต้องเหลียวซ้ายแลขวาว่าจะมีคนโรคจิตมาข่มขืน เรื่องไฟไหม้รับตรุษจีนก็เงียบหายไปเลย

ไม่เหมือนสมัยนี้นะคะ โจรผู้ร้ายชุกชุมยิ่งกว่าแมลงวันหน้ามะม่วงเสียอีก!

ไหนว่ายาบ้าลดลง หนูเห็นข่าวจับยาบ้าทีละเป็นพันเป็นหมื่นเม็ดทุกวัน ทำท่าว่าปราบเท่าไหร่ก็ไม่หมด คงพอๆ กับการพนันและหวยใต้ดินแหละนะคะ ตั้งแต่เลิกหวยบนดินมาได้ปีหนึ่งนี่ เจ้ามือหวยใต้ดินรวยกันใหญ่ ตำรวจก็พลอยรวยไปด้วย เอ๊ะ! ยังไง? มิน่าล่ะ ถึงไม่ยอมออกหวยบนดินซะที

อุ๊ย! ขอโทษค่ะ หนูกำลังเล่าเรื่องสยองขวัญแท้ๆ แต่กลับนอกเรื่องไปซะ...คือนักโทษประหารโดนยิงเป้าหน้ากำแพงวัด ชาวบ้านที่แห่มาดูเป็นลมเป็นสิบๆ คนแน่ะค่ะ

ญาติมารับศพไปแล้ว แต่เศษเลือดเศษเนื้อยังกระจายเต็มกำแพงวัด ที่มีรูกระสุนปืนด้วย พระเณรและเด็กวัดต้องออกมาช่วยกันเช็ดล้าง ทำความสะอาดจนเหงื่อตกไปตามๆ กัน

วิญญาณสองดวงก็สิงอยู่ที่นั่น!

แหม! ในวัดเองก็มีผีเยอะอยู่แล้ว มีคนโดนหลอกตอนเดินเข้าวัดแล้วเลี้ยวขวาไปทางโบสถ์วิหารที่มีรูปปั้นพระเจ้าตากสิน เสียงร้องเอะอะโวยวาย ตามด้วยเสียงวิ่งคึ่กๆ ออกมาถึงหน้าวัดแน่ะค่ะ ชาวบ้านแตกตื่นไปตามๆ กัน

ทีนี้มีวิญญาณผีตายโหงประจำการอยู่หน้าวัดอีก โอย...อะไรจะสยองปานนั้นล่ะคะ? เป็นหนูละไม่กล้าอยู่หรอก แต่ก็ยังมีร้านค้าหน้าวัดเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เท่ากับมีคนเห็นผีตัวโชกเลือดเดินโงนเงนตอนดึกๆ แถวที่โดนประหารนั่นแหละค่ะ บางคนขับรถมาเห็นเข้าเล่นเอาพุ่งออกข้างทาง ปางตายไปเลยก็มี

ที่ร้ายมากคือลุงจัด คนแถวบ้านหนูขับรถกลับบ้านตอนกลางคืน สมัยนั้นยังเปลี่ยวอยู่นะคะ ลุงจัดเห็นใครยืนขวางถนนตรงหน้าวัดก็บีบแตรให้รู้ อ้าว? กลายเป็นร่างสองร่างเดินทื่อเข้ามาหา ยื่นแขนมาข้างหน้าเหมือนผีในหนังจีน

แสงไฟหน้ารถส่องให้เห็นภาพนั้นเต็มตา!

สุดสยองที่สุดในชีวิต นักโทษประหารคู่นั้นเองค่ะ เลือดแดงเต็มอกเลย ลุงจัดจำได้แม่นเพราะแกไปยืนดูตอนเขายิงเป้าเหมือนกัน

ลุงจัดเล่าว่าหลับตาปี๋ กระทืบคันเร่งไม่รู้ตัว สองหูอื้ออึงแต่ได้ยินเสียงร้องโอ๊ย...รู้สึกเหมือนรถวิ่งทะลุก้อนน้ำแข็ง หนาวจนสะท้านไปทั้งตัว หัวใจยังไม่หยุดเต้นก็บุญโขแล้วค่ะ

รุ่งขึ้นแกเป็นไข้ นอนเพ้ออยู่หลายวันจนป้าสงัดต้องไปขอน้ำมนต์ในวิหารพระเจ้าตากมาให้กินถึงค่อยทุเลา

ต่อมามีคนเห็นผีหน้าวัดบ่อยๆ จนแทบจะชินชากันไปหมด ก็เห็นบ่อยนี่คะ หลอกได้หลอกไป ไม่กลัวซะอย่าง...ปรากฏว่าวิญญาณผีตายโหงค่อยๆ จางหาย แต่ไปโผล่ที่หน้าวัดจันทรารามน่ะซีคะ...พอคนที่นั่นเริ่มเฉยๆ ผีร้ายก็ย้ายไปหลอกหลอนแถววัดเวฬุราชินดื้อๆ

ปีนี้หนูอายุ 12 ปีเต็ม ย่าง 13 ปีแล้ว ต้องรออีกหลายปีกว่าจะมีสิทธิ์ไปเลือกส.ส.ได้...ถึงตอนนั้นไม่รู้ใครจะย้ายพรรคแบบวันเว้นวันย้ายทีเหมือนตอนนี้หรือเปล่าก็ไม่รู้นะคะ! เฮ้อ...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เรื่องผี ที่ได้รับความนิยม