ผี มหาวิทยาลัย ตอน ๒

มหาวิทยาลัยรังสิต
สถานที่เกิดเหตุ : หอชายเก่า
ที่หอชายเก่าในช่วงที่ใกล้จะสร้างหอเสร็จ มีการติดตั้งลิฟต์ และคืนนั้นมีคนงานกินเหล้ากันตามปกติ จนกระทั่งตี 1 มีคนงานคนหนึ่งตกลงไปที่ชั้นล่างใต้ลิฟต์แล้วปีนขึ้น มาไม่ได้ เพราะความเมา และคนงานคนนั้นก็เลยถูกลิฟต์ทับ ในเวลาต่อมาหลังจากที่หอเปิดได้ไม่นานก็มีนักศึกษาเข้าอยู่เต็ม และหอนี้ไม่เคยปิดเป็นเวลา จึงมีนักศึกษาเข้า-ออกเป็นประจำ จนตี 2 ของคืนหนึ่ง มีนักศึกษากลับมาจากข้างนอกแล้วเดินขึ้นลิฟต์ตามปกติ หลังจากกดชั้นที่พัก ลิฟต์ก็เคลื่อนที่ไปได้สักพักแล้วก็หยุด พร้อมๆ กับไฟดับและมีเสียงร้องดังออกมาข้างนอก จากนั้นลิฟต์ก็เปิดออกพร้อมฝุ่นตลบ มีเสียงใครคนหนึ่งตะโกนว่าอย่ายืนทับที่ หลังจากนั้นก็มีการทำบุญหอกันมาทุกๆ ปี

มหาวิทยาลัยนเรศวร
สถานที่เกิดเหตุ : คณะวิทยาศาสตร์
คำบอกเล่าจาก อ.คณะวิทย์ ว่าหลังจากที่มียามถูกแทงตายเพราะทะเลาะกัน ก็มีการจับภาพวิญญาณไว้ได้ในกล้องวงจรปิดของคณะ โดยที่ยามคนนี้ยังแวะไปเยี่ยมเยียนนิสิตบางส่วนที่ชอ บอยู่ดึกๆ ในตึกอีกด้วย
อีกเรื่องเล่ารุ่นต่อรุ่นว่า ในวันบวงสรวงรับน้องใหม่ในปีหนึ่งมีน้องที่คณะพยาบาล เป็นลมเพราะเห็นกองทัพพระนเรศวรเดินทัพลอยมาจากบนฟ้า

๓ เปรต สาวงาม หลงกาเม

นี่เป็นเรื่องที่หลวงปู่จันทา ถาวโร เจอกับ ๓ สาวงาม หลงกาเม

คืนวันหนึ่งตอน ๓ ทุ่ม ขณะที่ท่านพระอาจารย์จันทาเดินจงกรมอยู่ในป่าช้าแห่งนั้น บรรยากาศอันสงัดวิเวกวังเวงได้เย็นเยือกลง มีกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงลอยมาจนทำให้สะอึก ท่านคิดว่า ชาวบ้านฝังผีไม่ลึก ทำให้สุนัขมาขุดคุ้ยหลุมผี ลากเอาศพเน่าแล้วขึ้นมากิน กลิ่นศพเลยกระจายมาตามกระแสลม

จึงสูดลมหายใจแรง ๆ เอากลิ่นศพเข้าปอด วิธีนี้จะทำให้ร่างกายปรับตัวเข้ากับกลิ่นเหม็นได้สนิท ความเหม็นเน่าจะทุเลาลง วิธีนี้สัปเหร่อแนะนำให้ไว้แล้วท่านก็เดินจงกรมต่อไปกำหนดพุทโธตามจังหวะย่างก้าวไม่นานจิตร่วมลงเกิดโอภาสสว่าง จ้า

ในแสงสว่างนั้น เห็นนิมิตเป็นหญิงสาว ๓ นาง ตัดผมสั้นคล้ายทรงผมผู้หญิงออกศึกสงครามสมัยโบราณ ผิวขาวร่างสูงใหญ่ ๘ ศอก สวยมาก แต่เปลือยกายล่อนจ้อน เข้ามาหยุดยืนห่างในระยะประมาณ ๒ วา ที่ของลับนางทั้ง ๓ มีหนอนตัวเท่านิ้วมือจำนวนมากมายเจาะอยู่ยุ่บยั่บน่าหวาดเสียว น้ำเหลืองน้ำหนองไหลพลั่ก ๆ ลงมาที่พื้นดินจิตบอกว่า นางทั้ง ๓ นี้เป็นเปรต !

นางเปรตทั้ง ๓ ได้เดินไปยืนคร่อมเครือเถาวัลย์ แล้วถูไปถูมาทำให้หนอนที่รุมเจาะของลับอยู่นั้นร่วงพรูลงมา เป็นภาพที่ทำให้สังเวชสลดใจยิ่งนัก ท่านพระอาจารย์จันทากำหนดจิตถามว่า

“ทำกรรมทำเวรอันใดไว้ถึงได้มาตกค้างอยู่ในสภาพนี้โยม?”
นางเปรตทั้ง ๓ ร้องเสียงดังโหยหวนไปทั้งป่าช้า ร่ำไห้น่าสงสาร กล่าวตอบว่า
“พวกข้าน้อยมีทุกข์ทรมานแสนสาหัสเหลือเกินท่านครูบาเอ๊ย ตั้งแต่สมัยตั้งเมืองนครพนมหลายร้อยปีนานมา

พวกข้าน้อยเป็นสาวงาม เมื่อมีผัวแล้วก็เล่นชู้นอกใจผัว ไม่เลือกเป็นพระสงฆ์องค์เจ้าหรือฆราวาส ฝ่ายผัวรู้เข้าก็คับแค้นใจ สาปให้ตายไปเป็นเปรต ถูกฝูงหนอนรุมเจาะของลับเช่นนี้แหละ”
“อยากจะพ้นทุกข์นี้ไหมล่ะโยม ?”
“อยากพ้นเจ้าค่ะ แต่ไม่รู้จะพ้นได้อย่างไร ?”

ผี มหาวิทยาลัย ตอน ๑

สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้า เจ้าคุณทหาร ลาดกระบัง
สถานที่เกิดเหตุ :ตึกทรงไทย คณะสถาปัตยฯ
ตึกทรงไทยนี้สร้างมานานพอๆ กับอายุของสถาบัน เขาเล่ากันมาว่าตอนที่จะสร้างตึกเรือนไทย ได้มีการขุด ดินก่อนจะเริ่มตอกเสาเข็ม แต่พอขุดไปสักพักกลับเจอโครงกระดูกเต็มไปหมด แต่ไม่มีส่วนหัว พอสืบไปสืบมา ปรากฎว่าส่วนหัวถูกนำไปฝังไว้ตรงคณะวิทยาศาสตร์ เท่าที่เล่าลือกันมา เมื่อก่อนบริเวณตรงนั้น เป็นแหล่งซ่องสุมของโจรแขก แล้วเจ้าคุณทหารฯ ก็เป็นคนที่โหดเยมเลยฆ่าตัดหัวทิ้ง แบบไม่ให้ไปผุดไป เกิดเพื่อจะได้เป็นผีเจ้าที่คอยเฝ้าดูแลสถานที่นั้นๆ ต่อมาเจ้าคุณทหารฯ ได้บริจาคที่ดิน บริเวณนี้เพื่อการศึกษา พื้นที่ตรงนั้นเจ้าที่แรงมากจึงได้มีการสร้างศาลพระภูมิไว้ และถูกปล่อยให้เป็นที่โล่งกว้างสืบไปสืบมาที่ตรงนั้น คือลานประหารมาก่อนด้วย ทุกวันนี้ตึกทรงไทยก็ยังน่ากลัวอยู่ เพราะเป็นตึกเก่าๆ โทรมๆ เต็มไปด้วยต้นไม้ บรรยากาศวังเวงสุดๆ ตอนกลางคืน

มหาวิทยาลัยบูรพา

เล่นผีถ้วยแก้ว นร.คลั่งช็อคหมดสติ

นักเรียนโรงเรียนร่มเกล้าวิทยาคาร จ.ปราจีนบุรี กว่า 30 คน เกิดอาการอุปทานหมู่ คลั่งและช็อคจนหมดสติ จนต้องส่งโรงพยาบาล คาด ปมเกิดจากการเล่นผีถ้วยแก้ว ...

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลนาดี จังหวัดปราจีนบุรี ว่ามีเด็กนักเรียนจากโรงเรียนร่มเกล้าวิทยาคาร หมู่ที่ 1 ตำบลบุพราหมณ์ อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี เกิดอาการแน่นหน้าอก อาเจียน ร้องเอะอะโวยวาย เข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล จำนวนกว่า 10 ราย

หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก ผู้มอบกระดูกหน้าผากนางนาก

หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก หรือ “ท่านพระครูวิสุทธิ ศิลาจารย์” จัดเป็นอีกหนึ่งคณาจารย์ยุคเก่าที่มีลูกศิษย์ทุกระดับชนชั้นมากมายรวมทั้ง “พระบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์” ก็ได้เสด็จไปฝากตัวเป็นศิษย์ของท่าน หลวงพ่อพริ้ง เป็นผู้มอบกระดูกหน้าผากนางนากให้เสด็จในกรมฯ ซึ่งมีความเฮี้ยนมากจนเป็นที่กล่าวถึงของพระโอรสและธิดา ซึ่งเสด็จเตี่ยบอกว่า ไม่ต้องกลัว และความเฮี้ยนของนางนากก็ปรากฏถึง ๒ ครั้ง
ในตำหนักนางเลิ้ง

ในเรื่องกระดูกหน้าผากของนางนากนี้ได้ปรากฏในงานเขียนประวัติของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) รวบรวมโดย ม.ล.พระมหาสว่าง เสนีย์วงศ์ ณ อยุธยา พ.ศ.2473 บรรยาย ไว้ว่าหลังจากที่นางนาคออกอาละวาดหนัก สมเด็จพระพุฒาจารย์ท่านรู้เรื่องจึงลงไปค้างที่วัดมหาบุศย์และเรียกนางนาค ขึ้นมาคุยกัน ผลสุดท้ายท่านเจาะเอากระดูกหน้าผากของนางมาลงยันต์และทำเป็นปั้นเหน่งคาดเอว ผีนางนาคก็ไม่ออกมาอาละวาดอีกเลย

เรื่องจริงผ่านจอ - พิสูจน์ ผีกระสือ 18-06-52

ภาพผีกระสือถูกจับได้จากกล้องวงจรปิด


ต้องพิสูจน์ ว่าจริงหรือมั่ว

ผมโดนคุณไสย์

ก่อนหน้านี้ผมก็ใช้ชีวิตมาตามปกติ สังคมของผมก็ปกติซึ่งไม่ค่อยได้ใกล้หรือสัมผัสกับสิ่งลึกลับหรือคุณไสย์อะไร เลยจนกระทั่งประมาณปลายปี 2003 ผมได้ร่วมลงทุนกับเพื่อนรุ่นพี่ที่ผมนับถือและรักมากคนหนึ่ง ปกติผมเป็นคนสบายๆ ง่ายๆ มองโลกในแง่ดีเสมอมา ผมก็เลยไม่ได้ทำสัญญาการลงทุน ใช้สัญญาใจกัน (ผมขอเล่าคร่าวๆ นะครับ เดี๋ยวจะเบื่อซะก่อน)
ก็เป็นธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งตัวสินค้าหรือชิ้นงานเป็นไอเดียของผม ในช่วงนั้นผมมีงานประจำอยู่ก็เลยตกลงกันให้พี่เค้าเป็นคนบริหารพร้อมกับ ภรรยาของพี่เค้าซึ่งเค้าก็เข้าร่วมหุ้นด้วย
ซึ่งตอนแรกก็ตกลงกันอย่างดี จนกระทั่งธุรกิจเริ่มต้นได้ดีเกินคาด เพียง 3 เดือนแรกก็ได้กำไรเป็นหลักเกือบล้านบาท ผมก็ได้รับส่วนแบ่งตามที่ตกลงกันไว้ (แต่ก็ไม่แน่ใจว่าได้ครบรึเปล่า) พอเริ่มเข้าเดือนที่ 12 จะครบปีผมก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ หลายๆ อย่างเช่น

ท้าผีในห้องน้ำ ที่ลาดกระบัง

เรื่องนี้เกิดประมาณปี 2541 ที่ สถาบันแห่งหนึ่ง ย่านลาดกระบัง เรื่องราวนี้เป็นการลองดีของเพื่อนๆ ที่เรียนวิศวะฯด้วยกัน มีอยู่คืนหนึ่งในภาคเรียนที่สอง เทอมนั้นเราไปเรียนที่ตึก A ชั้น 5 เราเรียนช่วงเวลาเย็นกันทุกวันจนถึง2 ทุ่ม ในชั้น5นี้เอง นักศึกษาที่เข้ามาใหม่ต้องพบความประหลาดใจทุกคนเมื่อเรามาเรียนตึกนี้ครั้งแรกๆ เดินผ่านห้องน้ำหญิง จะมีศาลเจ้าที่ติดอยู่บนผนังห้องน้ำ มีดอกไม้ธูปเทียนและน้ำแดงอยู่ด้วย แต่เป็นห้องน้ำหญิงเราแค่เดินผ่าน เมื่อเข้าเรียนจึงถาม ดร. ที่ท่านมาสอนว่าห้องน้ำนี้ประวัติอย่างไร ท่านก็เล่าเพียงคร่าวๆ ว่านักศึกษาหญิงอกหัก เลยมาผูกคอตายที่นี่ เป็นเรื่องที่ทำให้สองคณะไม่ลงรอยกันหลายๆปี เวลาพวกเราก็เลิกเรียนก็เดินผ่านห้องน้ำนี้ตอน2ทุ่ม รู้สึกขนลุกทุกที ทุกคนก็รีบๆลงตึกกันทั้งนั้น เพราะตึก A ทั้งเก่าและค่อนข้างมืด เมื่อผ่านไปครึ่งเทอมเพื่อนผมสองคน ชื่อ ไอ้เม้ง กับ ไอ้อ้า มันนึกคึกอะไรไม่รู้เกิดอยากลองดีขึ้นมามันนัดกันไปดูผีที่ ตึกA ชั้น5 ห้องน้ำหญิง
วันนั้นผมมานั่งทำแล็ปอยู่ที่ภาควิชา  ประมาณ 4ครึ่ง ทุ่ม ไอ้เม้งมันเดินมาชั้นสองเข้ามาที่ห้องผมกันเพื่อนอีกคนตกใจ ใครว่ะโผล่มามืดๆ สภาพไอ้เม้ง หน้าถลอก แขนแผลเป็นทาง เลือดซึม ขาซ้ายถากเป็นแผลยาว เลือดเป็นทาง

พวกเราตกใจมาถามว่า "เฮ้ย! มึงไปทำอะไรมา ไอ้เม้ง"

ผีหลอกในโรงเรียนมัธยมอเมริกา โดย(CNN)

Haunted high school -- Ghost caught on video (CNN)
เหตุการณ์นี้เกิดจากข่าวของ CNN ปี2008 รายงายว่าในโรงเรียนเห่งนี้จับภาพผีในโรงเรียนได้ ท่านลองดูเองก่อนว่าผีฝรั่งเป็นยังไง

ไขปริศนา 49 วัน ชีวิตหลังความตาย

ได้รับเมล์นี้มาลองพิจารณาดูคนรอบตัวที่ตายไป

มนุษย์ และสัตว์มิได้สิ้นสุดที่ความตาย เพราะการ "ตาย" หมายถึง สภาพร่างกายที่ไม่สามารถให้บริการแก่จิตวิญญาณใช้งานต่อไปได้อีก วิญญาณยังคงอยู่ ถึงแม้ร่างกายจะหมดอายุขัยไปแล้ว ทั้งนี้สภาพการตายจะบ่งบอกให้รู้ว่าจิตวิญญาณนั้นไปสุคติหรือลงสู่นรกภูมิ

1. ตอนตายใหม่ ถ้าหากสีหน้าปกติ ร่างกายอ่อนนิ่ม สีหน้าเหมือนคนมีชีวิตอยู่ เนื่องจากได้บรรลุธรรม ดวงวิญญาณจะไปสู่สุคติ
2. ตอนตายใหม่ๆ หน้าตาซีดผาด เหมือนคนตกใจ แสดงว่าวิญญาณได้ตกสู่นรกแล้ว
3. ตอนตายใหม่ๆ ร่างกายแข็งทื่อ หน้าตาน่ากลัว เพราะความตกใจ บางคนจะกรีดร้องเสียงคล้ายสัตว์ คนเหล่านี้จะไปเกิดเป็นสัตว์ 4 ชนิด สังเกตได้จากตา หู จมูก ปาก ตาจะมีน้ำตาออก หูจะมีขี้หู จมูกจะมีน้ำมูก ปากจะมีน้ำลายฟูมปาก เป็นทวารที่ไม่สะอาด 4 ช่องทาง เมื่อจิตวิญญาณออกทางนี้ จะเกิดเป็นสัตว์ 4 ประเภท

ไล่ผี ของ ศาสนาคริสต์

พิธีไล่ผีของชาวตากาล็อก ประเทศฟิลิปปินส์ นับถือคริสต์ และผี สารคดีโดย national geographic channel

พิธีขอขมาเด็กที่ถูกทำแท้ง ณ. วัดแค

ใครที่เคยทำแท้งกรรมนั้นตกไปทั้งพ่อเด็กและแม่เด็ก เป็นปาณาติบาตคือการฆ่า ทำให้อายุสั้น ชีวิตมีปัญหา เจ็บไข้ได้ป่วย ภูตผีตามรังควาน ชีวิตตกต่ำเมื่อกรรมตามทัน เมื่อถึงคราวก็ตาย

พิธีนี้ช่วยได้ในระดับหนึ่งแต่ไม่ได้ช่วยทั้งหมด ทางที่ดีต้องปฏิบัติธรรม วิปัสสนากรรมฐาน ทุกวัน อุทิศให้ทุกวันจนเขาอโหสิกรรม แต่ที่คุยกับคนทำแท้งส่วนมาก ไม่ค่อยอโหสิกรรม แต่ลดการรังควานลง ถ้าผู้ทำแท้ง ผู้ที่บังคับให้ทำแท้ง และผู้แนะนำให้ทำแท้ง มีความคิดชั่ว ประพฤติชั่วอยู่ ก็ต้องเจอกับวิบากกรรม และ ผีเด็กที่เขาอาฆาตอยู่เนืองๆ จะตายดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับตัวคุณ

ก่อนจะดิดทำแท้ง "ไม่มีผู้หญิงใดในโลก ตั้งใจจะท้องทั้งที่ยังไม่พร้อม ไม่มีผู้หญิงคนใดในโลก ตั้งท้องเพื่อจะไปทำแท้ง...บ้านพักฉุกเฉิน ทางเลือกของผู้ประสบปัญหาท้องเมื่อไม่พร้อม" สมาคมส่งเสริมสถานภาพสตรี ช่วยท่านได้

ท่านได้ที่ได้ทำไม่ดีไปเล้ว จงหมั่นทำความดี อยู่ในศีล 5 ตลอดชีวิต ปฏิบัติธรรมอุทิศให้เขาไปเถอะ และท่านที่มีใจช่วยเหลือหญิงที่ในบ้านพักฉุกเฉินก็ถือเป็นบุญ ลดกรรมอย่างยิ่ง

อาธรรพ์ ในป่า

เรื่องนี้ไปพรานล่าสัตว์เล่าให้ฟังตอนไปเที่ยวป่า
พราณลุม เป็นพรานเฒ่าอายุเยอะมากแล้วแต่ก็ยังเป็นพรานที่เจนป่าอยู่ คนรุ่นเดียวกับแกต่างก็เลิกเป็นพรานไปหมดแล้ว แต่แกก็ยังใช้ชีวิตเป็นพรานป่าเก็บของป่ามาขายในเมืองบ้าง ล่าสัตว์มาขายบ้าง นำทางให้นักท่องเที่ยวบ้าง ถึงอายุจะเยอะ แกก็เป็นพรานที่มีคาถาอาคม ไม่ว่าจะเข้าป่าถิ่นไหนแกจึงไม่กลัว เพราะความที่เป็นคนมีวิชาติดตัว
มีอยู่ครั้งหนึ่งแกแบกปืนเข้าป่าไป 2 วัน แล้วก็ยังไม่ได้สัตว์สักตัวจึงทำให้แกหงุดหงิดมาก แกจึงตัดสินใจไปที่โป่งโพง ที่ซึ่งชาวบ้านล่ำลือกันว่าผีดุ ไม่มีใครกล้าเข้าไปล่าสัตว์ที่นั่น แกความหงุดหงิดที่เข้าป่ามา 2 วัน แล้วยังไม่ได้สัตว์สักตัว พรานลุมจึงเดินทางไปที่โป่งโพง กว่าจะไปถึงก็ดึกสงัดมาก พรานลุมขึ้นไปนั่งคอยดักยิงสัตว์อยู่บนต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง รออยู่เป็นนานก็ไม่มีตัวอะไรผ่านมาเลย แกจึงตะโกนออกมาด้วยความหัวเสียว่า “ สัตว์มันหายไปไหนกันหมดวะ รึผีป่ามันจะเอาไปกินหมด ไม่เหลือไว้ให้กูล่าบ้างเลย! ”

ผีในห้องคนไข้พิเศษ

เหตุเกิดปี พ.ศ.2540 แม่เป็นเนื้องงอกทีรังไข่ เลือดไหลออกไม่หยุด ไปตรวจโรงพยาบาลเอกชนที่เชียงใหม่ หมอพอตรวจแป๊บหมอสั่งให้ผ่าตัดด้วนวันนั้นทันที ตอน 5โมงเย็นก็เข้านอนห้องพิเศษและผ่าคืนนั้น มาฟื้นอีกทีตอนตอนตีหนึ่ง พยาบาลก็พอไปพักในห้องคนไข้พิเศษ
คืนนั้น ก็เหมือนฝันว่าผู้หญิงแต่งตัวใส่ชุดฟอร์มฟ้าๆเทา ลายดอกเทาๆ กำลังสาวดึงผ้าห่ม ดึงเสื้ออยู่ข้างเตียง แม่ตะโกนเรียกน้าพรรณที่นอนอยู่โซฟาข้างเตียงด้วยความตกใจ น้าพรรณสะดุ้งตื่นและเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น แม่จึงเล่าเหตุการณ์ไปทั้งคู่ต่างขนลุกซู่ เจอเแล้วผี! คืนนั้นไม่เป็นอันนอน วันรุ่งขึ้นน้าก็ไปทำสอนหนังสือ และมาเฝ้าแม่ตอนกลางคืน แต่ช่วง3วันผ่านมาไม่เิกิดอะไรขึ้น
จนมาถึงวันที่ 4 ในคืนนั้น น้าพรรณนอนที่โซฟาปลายเท้าหันไปทางห้องน้ำ ช่วงดึกๆ เงียบสนิท น้าพรรณตะโกนด้วยความงัวเงียว่า "อย่าดึง อย่าดึง" แม่ที่นอนบนเตียงก็ชำเลืองดูน้าพรรณเป็นอะไร

ท้าทาย กุมารทอง เลยเจอดี

เหตุการณ์นี้เกิดประมาณเดือน กรกฏาคม 2552 แถวบางนา น้องนักศึกษาคนหนึ่งเล่าว่า วันที่ได้ดูเรื่องกุมารทองของรายการตี 10 เกิดนึกสนุกพูดขึ้นมาว่า "กุมารทองมีจริง ก็มาให้โชคลาภซิ แล้วจะไปเช่ามาบูชา" ตกคืนนั้นเธอฝันว่ามีคนมาบอกให้ซื้อเลข 16 ซึ่งเป็นใครไม่รู้ ตื่นเช้ามาคิดว่าฝันธรรมดาไม่ได้สนอะไีร บางทีเธอพูดเล่นเรื่องกุมารทอง ผ่านไปได้สักสองวันตอนเย็นไปที่มหาวิทยาลัย ไปหาที่จอดรถในชั้นรถไม่ได้เลย เลยนึกลองดูชวนเพื่อน ให้พูดบอกกุมารทองช่วยหาที่จอดรถให้หน่อย ไม่นานก็เจอที่ว่างให้รถจอดหลังจากวนอยู่นาน ตอนนั้นรีบไปเรียนเลยไม่ได้สนใจอะไร และแล้วในตอนที่ทำรายงานในห้องเธอเดินไปหาพี่อีกคนเพื่อขอดูรายงาน คุยกันสักพักหนึ่ง
พี่เขาก็ถามว่า "เมื่อกี้เห็นเงาแวบๆ เพื่อนรึป่าว เธอเดินตามมา แล้วไปไหนล่ะ"
เธอรู้สึกตกใจ "ไม่มีนี่พี่ เดินมาคนเดียวไม่ได้มีเพื่อนตามมานี่ ก็เพื่อนในกลุ่มก็นั่งทางโน้นหมด"
พี่เขาค้านว่า "เมื่อกี้พี่เห็นเงาแว๊บเดินตามมาตัวสูงๆ นี่"
เธอรู้สึกขนลุก "พี่อย่าพูดอย่างั้นซิ มาคนเดินนะ พูดอย่างงี้กลัวแล้วนะ"
เธอเล่าว่าพี่คนนี้เคยชวนเธอไปปฏิบัติธรรมที่วัดอัมพวัน สิงห์บุรี พี่เขาเคยไปปฏิบัติธรรมมา เรื่องพวกนี้เลยพี่เขารู้สึกได้

รู้จัก ผีเปรต

ผีเปรตในโลกมีอยู่ 12 ตระกูลใหญ่ๆ ละเอียดต้องไปดูในคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเปรตโดยเฉพาะ นิรยกถา เป็นคัมภีร์ว่าด้วยเรื่องเปรตโดยเฉพาะ หรือดูจากจารึกการเปรียญ ณ วัดพระเชตุพนฯ และหาอ่านได้จากประชุมศิลาจารึกวัดพระเชตุพนฯ เล่ม 1 ซึ่งคัดลอกและถ่ายทอดมาโดยย่อ ดังนี้

หิมวนตปปเทเส วิชาติเปโต นาม เปตวิสโย กาลครั้งหนึ่งยังมี ประเทศแห่งหนึ่งในป่าหิมพานต์ ชื่อว่า วิชาตประเทศ ตั้งอยู่เบื้องบนแห่งนรกขึ้นมา อันเป็นที่อยู่แห่งเปรตทั้งหลายมีมหิทธกาเปรตเป็นอธิบดีแก่เปรตทั้งปวง และตระกูลเปรตนั้นมีอยู่ 12 ตระกูล คือ
1. วันตาสาเปรตตระกูล
2. กูณปขาทเปรตตระกูล
3. คูถขาทเปรตตระกูล
4. อัคคิชาลมุขเปรตตระกูล
5. สุจิมุขเปรตตระกูล
6. ตัณหาชิตาเปรตตระกูล
7. นิชฌามกเปรตตระกูล
8. สัตตังคาเปรตตระกูล
9. ปัพพตังคาเปรตตระกูล
10. อัชครังคาเปรตตระกูล
11. เวมานิกเปรตตระกูล
12. มหิทธิกาเปรตตระกูล

เรือสำเภาทองคำ ข้างวัด

เหตุการณ์นี้เกิดประมาณปี พ.ศ. 2460 เป็นเรื่องของคุณตาท่านหนึ่งที่เสียไปนานแล้ว ณ. วัดแห่งหนึ่งในอำเภอ ที่มีเขื่อน ในจังหวัดลำปาง
บริเวณวัดเป็นพื้นที่ของเมืองเก่า วัดนั้นอยู่บนภูเขาไม่สูงมากนัก ด้านหลังวัดเป็นภูมิทัศน์เว้าลึกติดแม่น้ำ เรื่องก็คือในสมัยนั้นมีชาวบ้านได้ลายแทงสมบัติมาจึงนัดเหล่าเพื่อนๆ 5 - 6 คน ไปแอบขุดสมบัติบริเวณวัดในเวลากลางคืน ในกลุ่มคนที่ไปขุดนั้นมีตา(อายุประมาณ 18-19)และเพื่อสนิทของตารวมอยู่ด้วย ก็ตามไปดูเขาขุดสมบัติกัน เมื่อตกค่ำประมาณ 1 ทุ่ม ก็ออกเดินทางไปบริเวณเแม่น้ำข้างวัด มืดสนิทเพราะสมัยก่อนต้นไม้ขึ้นเต็มไปหมดส่วนมากเป็นต้นไม้สักต้นใหญ่ๆ ตาและเพื่อนสนิทของตาอาสาถือคบไฟแต่บอกเพื่อนคนอื่นว่าสมบัติไม่เอา ขอดูอย่างเดียว เพื่อนที่เหลืออีก4คน ตกลงกันว่าไม่แบ่งสมบัติให้คนที่ไม่ช่วยขุด ชายทั้ง4ขุดตามลายแทงที่บอกอยู่เป็นชั่วโมง ยิ่งดึกยิ่งน่ากลัว
ขณะขุดไปได้ลึกระดับหนึ่งได้พบเรือไม้ถูกฝังอยู่ เป็นเรือสำเภาตาลายแทงแน่ ช่วงที่ขุดพบเป็นช่วงกลางลำ ตรงกลางมีกำปั่นทองคำไม่ดินกลบอยู่ ทั้ง4คน พยายามเรื่องขุดด้วยความดีใจ ตากับเพื่อนสนิทตาเห็นก็ขนลุก ว่ามันมีจริง

ผี ฆ่าเด็ก ที่เชียงราย

ประมาณปี พ.ศ. 2517 เหตุเกิดที่โรงพยายาบาลประชานุเคราะห์ คุณน้าอุ้มท้องเด็กมาตรวจ ไปที่โรงพยายาบาลเพราะมีอาการเจ็บท้องนิดๆ ก็เลยขอจองห้องพิเศษ เพื่อนอนพักให้หมอตรวจอาการต่างๆ
สภาพของโรงพยายาบาลสมัยนั้นไม่ได้ทันสมัยนัก การสร้างตึกก็ตามยุคสมัย ห้องพิเศษนั้นติดกับห้องดับจิต ซึ่งค่อนข้างน่ากลัว
ในคืนแรก น้าฝันว่ามีผู้ชายแต่งชุดทหารมายืนข้างเตียง น้ามองก็แปลกใจทหารมาจากไหน ทหารตนนั้นก็หัวเราะปากกว้างเรื่อยๆ ปากฉีกไปถึงรูหู น้าตกใจมากจน ตะโกนไม่มีเสียง อึกอักอยู่บนเตียงจนเช้า
พออีกวัน สามีน้าเป็นตชด. มาเฝ้าไข้นอนเตียงข้างๆ ตอนดึกมีผู้หญิงนุ่งกระโจมอก เดินมาในห้องมองที่น้า ตอนนั้น สามีน้านอนกึ่งหลับกึ่งตื่น น้าจะเรียกสามีว่าใครมา แต่ทันใดนั้นผู้หญิงก็กระโดนทับท้องแก่ของน้าทันที และมองตาถลนจ้องน้า แล้วพูดเบาๆเย็นว่า "จะเอาเด็กคนนี้ จะเอาเด็กคนนี้"
น้าตกใจมาร้องโอ้ยๆๆ ด้วยความเจ็บ จนสามีน้าตื่นขึ้นมา ผู้หญิงก็หายไป แล้วสามีน้าถามว่าเมื่อกี้ใครมาในห้อง

ผีหลอกที่ บ้านในสวนบางขุนนนท์

ประมาณปี พ.ศ.2525 ย่านบางขุนนท์ บ้านในสวนบางขุนนนท์ใกล้หอพักพยาบาล เจ้าของบ้านอาศัยในบ้านไม้ 2ชั้น ซึ่งห้องน้ำอยู่ชั้นล่าง ตอนประมาณ 3ทุ่ม เป็นเวลาที่เจ้าของอาบน้ำเป็นประจำ
ในห้องน้ำนั้นมีช่องลมสูงประมาณ 2เมตรกว่าๆ ซึ่งด้านนอกปลูกบอนสีเป็นรังไว้ติดกับช่องลม ขณะกำลังจะตักน้ำอาบ หน้าเงยไปช่องลม แต่...สิ่งน่ากลัวโผล่ทีช่องลม
มีบางอย่างหน้าคนขนาดฝาคลอบโอ่ง ผมหยิกรุงรัง ตาพองโปนถลนโต จ้องมาอย่างน่าขนลุก ในปากมันมีเขี้ยวโผล่ ผิวหน้าย่นยู่ยี่ เห็นแต่หัว เจ้าตกใจขนลุกตัวสั่น กับสิ่งที่จ้องมา
เจ้าของบ้านพยายามเรียกสติตนทั้งที่ตัวสั่น คิดในใจว่า "ไม่ต้องมาหลอกหลอน แล้วจะรีบทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้"
แล้วก็วิ่งออกจากห้องน้ำเอง โดยไม่หันมามองวิ่งหนีเข้าไปในห้องนอนชั้นบนคลุมโปงด้วยความสยอง
เพราะอยู่มานานตั้งแต่เป็นสวน ยังไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อน

เมื่อเช้าจึงทำบุญไปให้เจ้าอสุรกายที่โผล่มานั้น

เสียงสยอง ที่อ่าวมะนาว

เมื่อปี พ.ศ.2549 ช่วงเดือนสิงหาคม ผมได้ไปเที่ยวจังหวัดประจวบฯ ที่อ่าวมะนาว โดยไปกับเพื่อนๆ รวมผมด้วยเป็น 4 คน เป็นผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 2 คน เราตกลงกันว่าจะไปเที่ยว 2 วัน ค้าง 1 คืน โดยเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง จองห้องพัก 2 ห้อง ห้องหนึ่งของผมกับเพื่อนผู้ชายอีกคน ส่วนอีกห้องเป็นของเพื่อนผู้หญิงอีก 2 คน แต่พักห้องไหนชั้นอะไรผมจำไม่ได้แล้ว ตอนกลางวันเราก็ออกไปเล่นน้ำทะเล ขับรถไปเที่ยวที่ต่างๆกัน ส่วนตอนกลางคืนเราก็ซื้อเหล้าและอาหารเข้าไปกินกันในโรงแรมที่พัก เผอิญว่าคืนนั้นมีบอลฉายคู่ดึก เราทั้ง 4 คนก็เข้าไปนั่งกินเหล้าและดูบอลในห้องห้องเดียว แต่เพื่อนผู้ชายอีกคนของผมง่วงและก็เมาด้วยเขาจึงขอกลับไปนอนที่ห้องก่อน ส่วนผมนั่งกินเหล้าและดูบอลต่อกับเพื่อนผู้หญิงอีก 2 คน จนบอลจบประมาณตี 4 ผมก็กลับไปนอนที่ห้องผม แต่ระหว่างที่ผมกำลังล้มตัวลงนอนนั้นผมก็ได้ยินเสียงเหมือนคนโวยวายเสียงดังมากอยู่นอกห้องแต่ดังเข้ามาถึงในห้อง แต่ก็จับใจความไม่ได้ว่าพูดว่าอะไร ลักษณะเป็นเสียงงึมงัมบ่นด่าของคนหลายคน ตอนแรกผมก็สงสัยว่าตั้งตี 4 แล้วทำไมห้องอื่นยังส่งเสียงโวยวายดังลั่นอีก ทำไมไม่มีห้องไหนโทรลงไปแจ้งพนักงาน ทีแรกผมกะจะลุกขึ้นไปดูแต่ผมง่วงมากประกอบกับเมาด้วยจึงขี้เกียจลุกขึ้นไปดูจึงล้มตัวลงนอนหลับไป

ผีหลอกที่บางพลีน้อย

เรื่องนี้เกิดประมาณ พ.ศ. 2490  ที่บางพลีน้อย ในสมัยนั้นมีแค่ทุ่งนา ในแม่น้ำมีจระเข้ชุม ปลิงก็เยอะ  ตอนนั้นคุณปู่ไปเป็นตำรวจที่นั่น และคุณย่าพักในบ้านพักตำรวจติดชายทุ่ง  ในคืนหนึ่งย่าเข้านอนไว เพราะปู่ไปเข้าเวรที่โรงพักใ กล้ๆบ้านพักไม่รู้ว่านอนไปนานเท่าไร รู้สึกว่ามีคนนั่งข้างมุ้ง ย่าก็นึกว่าปู่กลับมาแล้ว นั่งพันใบจากอยู่  ย่า็ถามว่า "กลับมาแล้วเหรอ" แล้วเอื้อมมือไปลูบหลัง   แต่ไม่มีเสียงตอบกลับ ย่าจึงงงว่าทำไมไม่ตอบ  สักครูย่าได้ยินเสียงปู่คุยกับตำรวจคนอื่นดังมาจากโรงพักทางด้านซ้ายย่าหันไปตามเสียง ในขณะที่รู้สึกใจหาย  ว่าคนที่นั่งคือใคร และค่อยๆหันไปชายคนนั้นหายไปแล้ว  เมื่อนั้นเองก็รู้ว่าโดนผีในบ้านพักตำรวจหลอก ตกใจกลัวดึงผ้าคลุมโปงทั้งคืน

วิญญาณลูก สาวทำแท้ง

เหตุการณ์นี้เกิดประมาณปี 2542 ซึ่งสาวน้อยผู้หนึ่งเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดัง ตอนนั้นอยู่ปี 3

ชอบเที่ยวกับเพื่อนๆ วันหนึ่งเพื่อนชวนไปรับประทานอาหารร้านหนึ่ง และได้พบชายหนุ่มลูกเจ้าของโรงงานแถวลาซาน

เมื่อพบพูดคุยจนชอบกัน ชายหนุ่มตามรับส่งที่มหาวิทยาลัยเป็นประจำ จนสาวน้อยยอมรับเป็นแฟน ต่อมาไม่นาน สาวน้อยเกิดท้องขึ้นมา สันดานไอ้ลูกเจ้าของโรงงานก็ตีตัวออกห่าง และไล่ให้ไปทำแท้งที่โรงพยาบาลย่านคลองตัน ด้วยสภาพที่เป็นนักศึกษาและความไม่รับผิดชอบของชายหนุ่มลูกเจ้าของโรงงาน จำต้องทำแท้ง แต่เมื่อไปทำหมอบอกว่าเด็กอายุ 4 เดือนแล้ว ต้องให้ยาขับก่อนและค่อยคีบตัวเด็กออกมา สร้างความเจ็บปวดให้สาวน้อย และฆ่าเด็กไปพร้อมกัน

หลังจากทำแท้งไปแล้วชีวิตสาวน้อยไม่ได้ดีขึ้นเลย ทำสิ่งใดก็ไม่ประสบความสำเร็จ ประสบอุบัติเหตุตลอด

หรือทำงานก็โดนโกง คบเพื่อนก็โดนหลอกลวง โกงเงินโกงทอง เพราะกรรมที่ทำแท้ง