ป้ายกำกับ

ห้องอาถรรพณ์

"ชายเดี่ยว" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกในห้องเช่าซอยลอยมา

เมื่อสิบกว่าปีมาแล้ว ผมได้พบกับเหตุการณ์แปลกประหลาด ไม่รู้แน่ว่าโดนผีหลอกหรือเปล่า? มันก้ำๆ กึ่งๆ ชอบกลครับ แต่ที่แน่ๆ ก็คือทำให้หวาดระแวง ขวัญเสีย ใจคอแทบจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวไปหลายวัน

ขณะนั้นผมยังเป็นหนุ่มฉกรรจ์ ชอบเที่ยวเตร่เฮฮากับเพื่อนฝูงตามประสาชายโสด ไม่มีลูกเมียเป็นภาระให้ต้องรับผิดชอบ

เรื่องเที่ยวแบบเสเพลคงไม่ต้องเล่านะครับ คิดว่าย่อมจะเป็นที่รู้ๆ กันอยู่...แต่ขอเล่าประสบการณ์น่าพิศวง ไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรกันแน่? รู้แต่ว่าทำให้ขนหัวลุกอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย

ผมมีแฟนหลายคน ส่วนมากจะเลิกกับคนเก่าแล้วมีคนใหม่ บางช่วงมีทีละ 2-3 คน แต่บางช่วงก็ไม่มีซักคนเดียว ผมก็เที่ยวเตร่กับเพื่อนๆ ไม่มีอะไรเดือดร้อน

จนกระทั่งผมมีแฟนคนล่าสุดชื่อเกศ ทำงานแผนกต้อนรับในโรงแรมแถวสะพานควาย เป็นโรงแรมระดับสามดาวสำหรับต้อนรับนักเดินทางทั้งไทยและเทศ ไม่ใช่โรงแรมม่านรูดหรอกครับ



เกศเป็นคนเหนือ ตาคมผมยาว ผิวขาวเหมือนแตงร่มใบ รูปร่างดีมาก...คือทั้งอวบอัดและสูงโปร่ง รอยยิ้มน่าประทับใจมาก เรารู้จักกันเพราะผมไปจองห้องให้เพื่อนที่มาจากต่างจังหวัดหลายครั้ง กับไปหาเพื่อนที่โรงแรมบ้าง รับเพื่อนออกมาเที่ยวตอนกลางคืนบ้าง

เราถูกชะตากัน หรือปิ๊งกันตั้งแต่แรกจนกลายเป็นแฟนกันในที่สุด

เกศชอบยิ้มมากกว่าพูดเวลาอยู่ด้วยกัน เธออ่อนกว่าผมเกือบสิบปี ชอบฟังผมเล่าเรื่องนั้นเรื่องนี้ ส่วนมากเป็นมุขตลก เธอจะหัวเราะคิกคัก ตีไหล่ผมเบาๆ พลางพูดว่า...พี่เนี่ยะๆ จนติดปาก

ไม่นานเกศก็พาผมไปที่ห้องเช่าของเธอในซอยลอยมา ใกล้ๆ โรงหนังเฉลิมสิน ปากซอยมีหอยทอดเจ้าอร่อย ตรงข้ามประตูรั้วก็มีทั้งร้านเสริมสวย ร้านซักรีด กับรถเข็นและแผงขายของกินต่างๆ ตั้งแต่ก๋วยเตี๋ยวไปถึงข้าวเหนียวไก่ย่าง ลาบ ส้มตำ ฯลฯ

บ้านสองชั้นค่อนข้างใหญ่ ต่อเติมจนแทบเต็มเนื้อที่เพื่อกั้นห้องเช่าให้ได้มากที่สุด ด้านหน้าเป็นห้องของคนดูแล กับมีโทรศัพท์หยอดเหรียญ เพราะตามห้องไม่มีโทรศัพท์หรอกครับ "มือถือ" ก็ยังไม่แพร่หลายเหมือนสมัยนี้

มีสาวๆ รอคิวโทรศัพท์ที่หน้าห้องนั้น 4-5 คน แต่งตัวชะเวิกชะวากตามสบาย ขนาดนุ่งชุดนอนสั้นๆ ก็มี

ห้องพักเกศอยู่ชั้นล่างด้านขวามือริมรั้ว คั่นด้วยทางเดินแคบๆ สิ้นสุดที่ห้องน้ำรวม ห้องเกศถึงก่อนห้องน้ำรวมราว 3-4 ห้อง เป็นห้องริมกลางที่มีห้องอื่นๆ และบันไดขึ้นชั้น 2 ในห้องแคบๆ มีเตียงด้านขวา โต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ ตู้เสื้อผ้าพลาสติกกับโต๊ะกินข้าวมีเก้าอี้สองตัว พื้นปูด้วยเสื่อน้ำมันค่อนข้างเก่า

เกศบอกว่าห้องเช่าเดือนละ 800 บาท (มัดจำสองเดือน) เป็นห้องลุ่นๆ ว่างเปล่า คนเช่าต้องหาเครื่องใช้ไม้สอยทุกอย่างมาเอง ตอนแรกก็อยู่กับเพื่อน แต่เดือนก่อนเพื่อนย้ายไปอยู่ห้องเช่าตรงข้ามตลาดศรีไทย(ปัจจุบันคือห้างบิ๊กซี) มีห้องน้ำส่วนตัว และโทรศัพท์ทุกห้อง (ผ่านโอปะเรเตอร์) ค่าเช่าเดือนละ 1,200 บาท

ขณะนั้น ในซอยลอยมากำลังสร้างอพาร์ตเมนต์หรูหรา เฟอร์นิเจอร์และน้ำไฟ โทรศัพท์พร้อม เห็นว่าติดแอร์ทุกห้องอีกด้วยโดยแยกมิเตอร์ให้ผู้เช่าจ่ายเอง...เกศคิดว่าสร้างเสร็จจะย้ายไปอยู่ที่นั่น จึงไม่อยากซื้อข้าวของเพิ่มเติม

ผมสัญญาว่าถ้าย้ายไปอยู่แห่งใหม่จะช่วยออกค่าเช่ากับค่าไฟให้ครึ่งหนึ่ง

เกศแต่งตัวออกจากห้องก็เดินไปทำงานได้เลย มีการเปลี่ยนกะเข้าเวรที่รู้ล่วงหน้า ผมก็จะไปหาเธอยามว่าง ส่วนมากมักเป็นตอนกลางคืน สะดวกด้วยกันทั้งคู่

ระยะแรกๆ มีปัญหาตอนเข้าประตูรั้ว ต้องกดกริ่งแล้วบอกว่ามาหาใคร...เกศเลยแก้ปัญหาด้วยการทำกุญแจสำรองไว้ให้ผม ถ้าไขประตูเล็กเข้าไปก็หมดเรื่อง แต่ตลกตรงที่พอมีกุญแล้วประตูกลับเปิดโล่งเพราะมีคนเข้าออกเป็นประจำ

คืนหนึ่งผมก็เจอดีเข้าเต็มเปา!

ศุกร์นั้นผมเลิกงานก็เข้าวงเหล้ากับเพื่อนๆ จนชักมึนๆ ราวสามทุ่มก็ขอตัวนั่งแท็กซี่ไปหาเกศเพราะจำได้ว่าคืนนั้นเธอได้พัก กว่าจะเข้ากะก็ตอนสายวันเสาร์...เมื่อไปเคาะประตูห้องจนเปิดเล่นเอาผมผงะหน้า เพราะเป็นผู้หญิงคนอื่นนุ่งผ้าเช็ดตัวกระโจมอกจนนึกว่าเข้าห้องผิด

ผมม่านตาพร่าพราย จ้องมองให้แน่ใจอีกครั้ง...ปรากฏว่าเป็นเกศจริงๆ

เธอบอกว่าเพิ่งตื่นได้ไม่นาน คิดว่าผมคงมาแน่เลยจ้างเด็กไปซื้อหอยทอดกับผัดไทยมาอย่างละห่อ แล้วไปอาบน้ำอาบท่าจนสดชื่นมาหยกๆ ก็พอดีผมมา...แล้วเปิดตู้หยิบชุดนอนกระโปรงยาวสีม่วงมาสวม ผมก็เปิดห่อหอยทอดกับผัดไทยควันกรุ่นใส่จาน

ในห้องมีแต่จานชามและช้อนซ้อมกับขวดน้ำปลา อ้อ! มีกระติกแฮปปี้บ็อกซ์เล็กๆ ใส่น้ำแข็งอีกอย่าง เพราะถ้าไม่ไปกินข้างนอกก็ซื้ออาหารสำเร็จรูปมากิน

คืนนั้นทั้งเมาทั้งอิ่มหนำและมีความสุข เราดับไฟนอนราวสองยาม ผมหลับยาวจนได้ยินเสียงเคาะประตู เปิดออกไปเห็นเกศยืนยิ้มอยู่ในชุดสีฟ้า ผมชักเอะใจก็หันขวับไปที่เตียง... มีแต่ความว่างเปล่าน่าใจหาย ตาลายพร่าไปหมด พูดอะไรไม่ออกจริงๆ

สงสัยเมื่อคืนคงจะเมาจนตาลาย เกศเสียอีกที่ถามว่าเอาชุดนอนสีม่วงมาพาดเก้าอี้ทำไม? กินก๋วยเตี๋ยวคนเดียวทั้งสองห่อเลยเหรอ...ผมแก้ตัวว่าหิวมากน่ะ

ตั้งแต่นั้นมาผมก็ไม่ได้พบกับเกศอีกเลย จะโทรศัพท์ไปหายังไม่กล้า...กลัวเธอนึกขึ้นได้ว่าทำกุญแจสำรองให้แต่ประตูรั้ว ไม่มีกุญแจห้องด้วยนี่นา แล้วเข้าห้องได้ยังไง? ไม่อยากให้เธอขนหัวลุกไปอีกคนน่ะซีครับ!

คอลัมม์ ขนหัวลุก "ใบหนาด"

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

เรื่องผี ที่ได้รับความนิยม