"หมวยเล็ก" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกมีคนไปเผาต้นโพธิ์ในซอย
เมื่อปีกลายนี้ครอบครัวหนูย้ายจากเจริญพาสน์ไปอยู่บางยี่เรือ เพราะใกล้ที่ทำงานของพ่อมากกว่า บ้านเช่าเราอยู่แถววัดอินทาราม เห็นเขาเรียกกันว่าวัดกลางค่ะ ใกล้ๆ กับวัดเวฬุราชินกับวัดจันทราราม
หนูไปอยู่ไม่นานก็รู้จักกับเพื่อนบ้านและเพื่อนรุ่นเดียวกัน หลายๆ คนบอกว่าแถวนี้ผีดุนะ ระวังตัวเอาไว้ด้วย
มีต้นโพธิ์ใหญ่ริมทางเดิน เขาเรียกเจ้าพ่อโพธิ์ ชาวบ้านนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก และผีดุด้วย เห็นมีผ้าเขียวๆ แดงๆ สีเหลืองก็มี สีชมพูก็มี ทั้งเก่าและใหม่พันอยู่เต็มโคนต้น แถมยังมีตุ๊กตาดินเผารูปคนรูปสัตว์กับก้านธูปเกลื่อนกลาดไปหมดเลยค่ะ
มีคนไปบนบานศาลกล่าวเจ้าพ่อด้วยเรื่องต่างๆ เช่น ปัญหาครอบครัว มีหนี้สิน ผัวมีเมียน้อย ลูกติดยา ขนาดไปบนให้ลูกหลานแคว้วคลาดจากการโดนเกณฑ์ทหารก็มี
ส่วนมากก็คือไปขอหวยเจ้าพ่อ เมื่อถูกหวยก็มาแก้บนกัน คนแทงหวยผิดไม่มีใครโทษเจ้าพ่อหรอกค่ะ แต่บอกว่าตัวเองดวงไม่ดี ไม่มีลาภต่างหาก
อาจารย์ใหญ่
Labels:
เรื่องผี
"ศิษย์อาจารย์ใหญ่" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณผู้ห่วงใย
ดิฉันมีอาชีพรับราชการ เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออก งานในหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแลประจำ คืองานสอนวิชากายวิภาคศาสตร์ ทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
วิชานี้ว่าด้วยการศึกษาร่างกายของมนุษย์ทุกๆ ระบบในร่างกาย โดยภาคปฏิบัติได้เรียนกับผู้อุทิศร่างกายที่เราเรียกว่า "อาจารย์ใหญ่"
พวกเราทุกคนที่ทำงานด้านนี้ด้วยความรักและศรัทธาต่อวิชาชีพ และเคารพนับถือต่ออาจารย์ใหญ่ทุกๆ ท่านที่ได้ร่วมบริจาคร่างกายให้เป็นวิทยาทานต่อลูกหลานผู้ศึกษาทางด้านการแพทย์ของไทยทุกๆ คน
โดยธรรมชาติแล้วไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า กลัวกับสิ่งที่ไม่เห็นมากกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้า! สำหรับดิฉันไม่ลบหลู่หรือท้าทายใดๆ ศรัทธาเท่านั้นที่ทำให้ดิฉันยังปฏิบัติหน้าที่อย่างมีความสุขที่ได้ทำมาจนทุกวันนี้ ถึงแม้ความเสี่ยงที่ได้รับจากการที่ต้องอยู่ในห้องเรียนจะมีผลต่อสุขภาพของผู้สอนเช่นดิฉัน มากกว่านักศึกษาเสียอีกค่ะ
ดิฉันมีอาชีพรับราชการ เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคตะวันออก งานในหน้าที่ที่รับผิดชอบดูแลประจำ คืองานสอนวิชากายวิภาคศาสตร์ ทั้งในภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ
วิชานี้ว่าด้วยการศึกษาร่างกายของมนุษย์ทุกๆ ระบบในร่างกาย โดยภาคปฏิบัติได้เรียนกับผู้อุทิศร่างกายที่เราเรียกว่า "อาจารย์ใหญ่"
พวกเราทุกคนที่ทำงานด้านนี้ด้วยความรักและศรัทธาต่อวิชาชีพ และเคารพนับถือต่ออาจารย์ใหญ่ทุกๆ ท่านที่ได้ร่วมบริจาคร่างกายให้เป็นวิทยาทานต่อลูกหลานผู้ศึกษาทางด้านการแพทย์ของไทยทุกๆ คน
โดยธรรมชาติแล้วไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า กลัวกับสิ่งที่ไม่เห็นมากกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้า! สำหรับดิฉันไม่ลบหลู่หรือท้าทายใดๆ ศรัทธาเท่านั้นที่ทำให้ดิฉันยังปฏิบัติหน้าที่อย่างมีความสุขที่ได้ทำมาจนทุกวันนี้ ถึงแม้ความเสี่ยงที่ได้รับจากการที่ต้องอยู่ในห้องเรียนจะมีผลต่อสุขภาพของผู้สอนเช่นดิฉัน มากกว่านักศึกษาเสียอีกค่ะ
ผี ขึ้นจากสระ
Labels:
เรื่องผี
"อนินทิตา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อมีเด็กขึ้นจากสระติดรถมาด้วย
เด็กผู้หญิงเล็กๆ วัยสัก 3-4 ขวบนั้น บางคนมักจะชอบเล่นกับ "เพื่อนสมมติ" ซึ่งเพื่อนของเธอคนนี้ไม่มีตัวตน แต่มีชีวิตชีวาอยู่ในจินตนาการของเธอคนเดียวแท้ๆ และเรื่องนี้ก็ทำให้ดิฉันถึงกับขนหัวลุกมาแล้วเมื่อสามปีก่อน
พิมพ์ลดาเป็นหลานสาวอายุ 4 ขวบของดิฉันเอง พ่อแม่ของเธอรวยจัดก็เลยส่งลูกสาวตัวน้อยเข้าโรงเรียนอนุบาล ที่คิดค่าเทอมแพงลิบลิ่วอย่าบอกใครเชียว ฟังแล้วแทบจะลมใส่ไปตามๆ กันเชียวค่ะ
ค่าเทอมเหยียบหลักแสน แถมยังมีกิจกรรมสารพัดที่ดูดเงินผู้ปกครอง ผู้ไม่อยากให้ลูกน้อยหน้าคนอื่น...ทั้งละครโรงเรียน ทั้งเรียนพิเศษ เรียนบัลเลต์และว่ายน้ำ!
เผลอๆ ก็มีโฟโต้สตูดิโอดังๆ มาให้บริการถ่ายรูปชนิดวิลิศมาหราเอาไว้ติดฝาบ้าน รูปที่ถ่ายออกมาก็สวยอย่างน่าอัศจรรย์ ทว่าราคาค่ารูปนั้นมันช่างมหัศจรรย์ยิ่งกว่าค่ะเพราะล่อเข้าไปเป็นหมื่น
เสียงปริศนาจากห้องไม่มีเลขที่
Labels:
เรื่องผี
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2546 มาแล้วค่ะ
ตอนนั้นเป็นช่วงตอนปีใหม่ ดิฉัน, สามี, เพื่อนสามีและแฟนของเขา เราทั้งสี่คนตกลงจะไปเที่ยวที่เพชรบูรณ์โดยจองรีสอร์ท 3 วัน 2 คืน
แต่เราไปก่อนวันจอง 1 วันจึงโทรไปขอพักเพิ่มอีก 1 คืน แต่ทางรีสอร์ทไม่สามารถให้เราเข้า พักก่อนได้เพราะมีคนพักอยู่ในห้องที่เราจองไว้ ประกอบกับไม่มีห้องอื่นว่าง
ดังนั้นคืนแรกเราจึงต้องหาที่พักกันเอง
เราหาที่พักกันแถวๆ ตัวเมือง
โรงแรมแรกที่เราเข้าไปติดต่อนั้นห้องพักเต็มหมดเพราะเป็นวันปีใหม่
เจ้าหน้าที่ที่นั่นแนะนำให้ไปอีกโรงแรมนึงซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน เราจึงไปตามที่เขาแนะนำ
พอไปถึงโรงแรมที่สอง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าห้องพักเต็มเช่นกัน พวกเราทั้งเหนื่อยและล้าจากการเดินทางซึ่งตอนนั้นก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นกว่าๆ แต่ก็เริ่มมืดแล้ว เพราะเป็นช่วงหน้าหนาว เราจึงขอร้องเขาให้ลองหาห้องว่างให้เราสักสองห้องเผื่อว่าจะมีใครเช็คเอ้าท์ออกตอนหกโมงเย็น
เจ้าหน้าที่สองคนมองหน้ากันก่อนที่จะบอกกับเราว่า ที่จริงแล้วมีห้องว่างอยู่สองห้องแต่เป็นห้องแบบสองเตียง เราดีใจมากจึงจึงตอบตกลง
ตอนนั้นเป็นช่วงตอนปีใหม่ ดิฉัน, สามี, เพื่อนสามีและแฟนของเขา เราทั้งสี่คนตกลงจะไปเที่ยวที่เพชรบูรณ์โดยจองรีสอร์ท 3 วัน 2 คืน
แต่เราไปก่อนวันจอง 1 วันจึงโทรไปขอพักเพิ่มอีก 1 คืน แต่ทางรีสอร์ทไม่สามารถให้เราเข้า พักก่อนได้เพราะมีคนพักอยู่ในห้องที่เราจองไว้ ประกอบกับไม่มีห้องอื่นว่าง
ดังนั้นคืนแรกเราจึงต้องหาที่พักกันเอง
เราหาที่พักกันแถวๆ ตัวเมือง
โรงแรมแรกที่เราเข้าไปติดต่อนั้นห้องพักเต็มหมดเพราะเป็นวันปีใหม่
เจ้าหน้าที่ที่นั่นแนะนำให้ไปอีกโรงแรมนึงซึ่งอยู่ใกล้ๆ กัน เราจึงไปตามที่เขาแนะนำ
พอไปถึงโรงแรมที่สอง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าห้องพักเต็มเช่นกัน พวกเราทั้งเหนื่อยและล้าจากการเดินทางซึ่งตอนนั้นก็เป็นเวลาห้าโมงเย็นกว่าๆ แต่ก็เริ่มมืดแล้ว เพราะเป็นช่วงหน้าหนาว เราจึงขอร้องเขาให้ลองหาห้องว่างให้เราสักสองห้องเผื่อว่าจะมีใครเช็คเอ้าท์ออกตอนหกโมงเย็น
เจ้าหน้าที่สองคนมองหน้ากันก่อนที่จะบอกกับเราว่า ที่จริงแล้วมีห้องว่างอยู่สองห้องแต่เป็นห้องแบบสองเตียง เราดีใจมากจึงจึงตอบตกลง
วิญญาณมารายงานตัว
เรื่องเล่าหลวงพ่อจรัญ
อาตมามีเรื่องวิญญาณจะเล่าให้ฟังสักเรื่องหนึง เป็น เรื่อง วิญญาณมารายงานตัวเพื่อเจริญกรรมฐานที่วัดอัมพวัน เมื่อปีพ.ศ. 2525 -2526 เขาคือ วิญญาณของนายวิโรจน์ ปัญจบุรี
จำเป็นจะต้องกล่าวประวัติของนายวิโรจน์สักนิดหน่อย นายวิโรจน์ ปัญจบุรี เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2503บ้านเลขที่ 91/1 ถ. ประตูชัย ต. เวียง อ. เมือง จ. พะเยา บุตรนายวิรัตน์ นางมอนแก้ว ปัญจบุรี มีพี่น้องร่วมท้องกัน 4 คนนายวิโรจนเป็นคนที่สอง มีการศึกษาดี เรียนดีตลอดมา คือจบสายสามัญจากโรงเรียนพะเยาพิทยาคม พ.ศ. 2520 ศึกษาต่อที่วิทยาลัยครูเชียงราย ได้รับประกาศนียบัตร วิชาการศึกษาชั้นสูงวิชาเอกพลศึกษา เมื่อ พ.ศ.2524 และ ได้รับปริญญาครุศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาเอกพลศึกษา เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2526
เมื่อเดือนตุลาคมปี 2525 ระหว่างที่นายวิโรจน์เป็นนักศึกษา วิทยาลัยครูเชียงราย ได้รับคัดเลือกเป็นผู้แทนนักศึกษามาเข้าค่ายพัฒนาจิตใจ ที่วัดอัมพวัน อ. พรหมบุรี จ. สิงห์บุรี จัดโดยสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ มีผู้แทนนักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศมาเข้าค่าย 7 วัน มาเจริญวิปัสสนากรรมฐานนายวิโรจน์ปฏิบัติได้ดีมาก เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ เป็นคนไม่ข้องแวะกับอบายมุขเลย
นายวิโรจนมีแฟนคนหนึ่งเป็นคนจังหวัดเดียวกัน เขารัก กันมาก เมื่อเรียนจบแล้ว วิโรจน์สอบบรรจุได้เป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยครูเชียงราย แฟนของวิโรจน์สำเร็จ ปวช. เรียนต่อ ปวส.แล้วลาออกไปทำงานที่อำเภอหนึ่งในจังหวัดพะเยา
อาตมามีเรื่องวิญญาณจะเล่าให้ฟังสักเรื่องหนึง เป็น เรื่อง วิญญาณมารายงานตัวเพื่อเจริญกรรมฐานที่วัดอัมพวัน เมื่อปีพ.ศ. 2525 -2526 เขาคือ วิญญาณของนายวิโรจน์ ปัญจบุรี
จำเป็นจะต้องกล่าวประวัติของนายวิโรจน์สักนิดหน่อย นายวิโรจน์ ปัญจบุรี เกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ. 2503บ้านเลขที่ 91/1 ถ. ประตูชัย ต. เวียง อ. เมือง จ. พะเยา บุตรนายวิรัตน์ นางมอนแก้ว ปัญจบุรี มีพี่น้องร่วมท้องกัน 4 คนนายวิโรจนเป็นคนที่สอง มีการศึกษาดี เรียนดีตลอดมา คือจบสายสามัญจากโรงเรียนพะเยาพิทยาคม พ.ศ. 2520 ศึกษาต่อที่วิทยาลัยครูเชียงราย ได้รับประกาศนียบัตร วิชาการศึกษาชั้นสูงวิชาเอกพลศึกษา เมื่อ พ.ศ.2524 และ ได้รับปริญญาครุศาสตรบัณฑิตสาขาวิชาเอกพลศึกษา เมื่อวันที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2526
เมื่อเดือนตุลาคมปี 2525 ระหว่างที่นายวิโรจน์เป็นนักศึกษา วิทยาลัยครูเชียงราย ได้รับคัดเลือกเป็นผู้แทนนักศึกษามาเข้าค่ายพัฒนาจิตใจ ที่วัดอัมพวัน อ. พรหมบุรี จ. สิงห์บุรี จัดโดยสภายุวพุทธิกสมาคมแห่งชาติ มีผู้แทนนักศึกษาจากสถาบันอุดมศึกษาทั่วประเทศมาเข้าค่าย 7 วัน มาเจริญวิปัสสนากรรมฐานนายวิโรจน์ปฏิบัติได้ดีมาก เหล้าไม่ดื่ม บุหรี่ไม่สูบ เป็นคนไม่ข้องแวะกับอบายมุขเลย
นายวิโรจนมีแฟนคนหนึ่งเป็นคนจังหวัดเดียวกัน เขารัก กันมาก เมื่อเรียนจบแล้ว วิโรจน์สอบบรรจุได้เป็นอาจารย์ที่วิทยาลัยครูเชียงราย แฟนของวิโรจน์สำเร็จ ปวช. เรียนต่อ ปวส.แล้วลาออกไปทำงานที่อำเภอหนึ่งในจังหวัดพะเยา
ปีศาจเจ้าสิงศาลพระภูมิ
Labels:
เรื่องผี
"ปานใจ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อปีศาจเจ้าสิงศาลพระภูมิ
ดิฉันเคยฟังพวกผู้เฒ่าแก่เล่าเรื่องผี คุยเรื่องภูตผีปีศาจมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วค่ะ ไม่ว่าเด็กคนไหนก็ต้องกลัวผีคล้ายๆ กันทั้งนั้น ขนาดไม่กล้านั่งตรงช่องกระดานก็แล้วกัน จะมองลงไปยังไม่กล้ามอง..กลัวจะเห็นผีน่ะซีคะ
เรื่องถูกผีหลอกต่างๆ นั้นคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา แต่ผีหลอกทำไม? เพื่ออะไร? นี่ซิคะที่เป็นปัญหาข้องใจมาตลอด
ส่วนมากมักจะบอกว่าผีมาขอส่วนบุญต่างหาก แต่คนที่โดนผีหลอกไม่มีใครคิดถึงเรื่องนั้นหรอกค่ะ มีแต่จะหวาดกลัวจนขนหัวลุกไปตามๆ กัน บางคนกลัวจนแทบหัวใจวายก็มี! บ้างก็เชื่อว่าถ้าเรารู้จัก หรือเป็นเพื่อนเป็นญาติ ผีที่มาปรากฏให้เห็นเพราะคิดถึง จิตผูกพันกันอยู่ จึงต้องการมาเยี่ยมเยียน
บ้างก็บอกว่ามาส่งข่าว หรือบอกให้ญาติมิตรรับรู้ว่าตนเสียชีวิตไปแล้ว!
นอกนั้นก็เป็นผีที่ถูกฆ่า ติดตามมาล้างแค้นคนที่ฆ่าตน โดยเฉพาะเมื่อถึงความตายด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส โกรธแค้นเต็มที่ จะทำให้วิญญาณเฮี้ยนจัด...ติดตามอาฆาตไม่ลดละ จนกว่าจะแก้แค้นได้สำเร็จ!
วันชิงเปรต
Labels:
เรื่องผี
"หนูใหญ่" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกในวันชิงเปรตที่ระโนด
เชื่อว่าท่านผู้อ่านคงจะเคยได้ยินคำว่า "ประเพณีชิงเปรต" ของคนภาคใต้มาบ้างแล้ว แต่หลายๆ คนก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดจึงมีชื่อค่อนข้างแปลก โดยเฉพาะ "เปรต" เป็นอสุรกายชนิดหนึ่งที่รู้จักกันดีว่าน่าหวาดกลัวนัก แล้วจะมาแก่งแย่งขนาด "ชิงเปรต" กันไปด้วยเหตุไร?
ขออธิบายง่ายๆ ดังนี้ค่ะ
"ชิงเปรต" เป็นประเพณีในวันสารทเดือนสิบของพวกเราชาวใต้ โดยช่วยกันทำร้านสำหรับจัดสำรับอาหารคาวหวานไปวาง เพื่ออุทิศให้ผีสางหรือ "เปรตชน" ซึ่งหมายถึงปู่ ย่า ตา ยาย ที่ล่วงลับไปแล้ว
เมื่อนำสำรับอาหารลงมาแล้ว พวกลูกหลานของผู้ตายก็เข้าแย่งอาหารนั้น เรียกว่า "ชิงเปรต" หรือจะพูดให้ชัดๆ คือแย่งชิงอาหารต่อจากเปรตก็คงไม่ผิดหรอกนะคะ
บางท่านตั้งข้อสังเกตว่า มีลักษณะคล้ายคลึงกับประเพณี "ทิ้งกระจาด" ของคนจีน แต่ถ้าพิจารณาให้ดีจะเห็นว่าแตกต่างกันพอสมควร
การทิ้งกระจาดของจีนเป็นการทิ้งทานให้แก่พวกผีไม่มีญาติ ส่วนการตั้งเปรต-ชิงเปรตของไทย เป็นการอุทิศส่วนกุศลให้ทั้งเปรตและผี ทั้งที่เป็นญาติพี่น้องของพวกเรา รวมทั้งอุทิศให้ผีไม่มีญาติด้วย
พวกเราเชื่อถือสืบต่อกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษแล้ว ว่าการชิงเปรตไม่ก่อให้เกิดอัปมงคลแก่ผู้ชิง ตรงกันข้าม กลับถือว่าได้บุญเสียด้วยซ้ำไป!
เธออยู่ในตู้
Labels:
เรื่องผี
หมอนิ้ง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกที่ดอยสะเก็ด
อ้นเป็นเพื่อนสนิทของดิฉัน เรานัดกันไปเที่ยวเชียงใหม่ หวังโต้ลมหนาวสุดๆ เดือนธันวาคม เรื่องที่พักไม่ต้องห่วงเลยค่ะ เพราะญาติของอ้นเพิ่งแต่งงานกับพ่อม่าย-เศรษฐีเจ้าของไร่กาแฟเมื่อปีกลาย
มาปีนี้เลยชวนคนชอบๆ กันไปเคานต์ดาวน์ที่นั่น ดิฉันกับอ้นต่างมีธุรกิจส่วนตัวก็เลยมีอิสรเสรีเต็มที่ ยังโสดเสียด้วยซิคะ ทั้งๆ ที่เราอายุสามสิบกว่าๆ กันแล้ว
วันที่ 28 ธันวาคม เรานั่งเครื่องบินไปเชียงใหม่ พี่อ้อย-ญาติของอ้นเอารถมารับถึงสนามบิน เธอแก่กว่าเราแค่ 2-3 ปีแต่ดูสาวสวย มีสง่าราศี แต่งตัวเก่งและคุยสนุก มีเสน่ห์มากค่ะ สามีของพี่อ้อยเป็นม่าย ภรรยาเสียชีวิตไปร่วมสิบปี ลูกๆ ของเขาโตๆ กันหมดแล้วและไปอยู่เมืองนอกกันหมด คุณวิชัยก็เลยเหงา...ต้องนับว่าพี่อ้อยโชคดีมาก
ไร่กาแฟของคุณวิชัยอยู่ที่ดอยสะเก็ด มีเนื้อที่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา ทิวทัศน์สวยงามมาก มีภูเขาและสวนดอกไม้ด้วยค่ะ ในไร่นี่ปลูกกระท่อมสไตล์ยุโรปไว้ 5-6 หลัง เอาไว้ให้เพื่อนฝูงและญาติๆ มาพักไงคะ
ปีนี้ผู้คนก็มากันร่วมสามสิบคนแน่ะ ญาติของคุณวิชัยทั้งนั้น มีแต่ดิฉันกับอ้นที่เป็นเพื่อนและญาติฝ่ายพี่อ้อย แต่เราก็เข้ากับทุกคนได้ดีค่ะ พวกเขามีครอบครัวแล้ว แต่ละคนก็พาลูกพาหลานมา ทำให้ครึกครื้นดีจัง
พี่อ้อยให้เราสองคนพักอยู่ที่กระท่อมขนาดสามห้องนอน อยู่ไกลออกมาจากบ้านใหญ่ น่าแปลกใจว่า ทำไมครอบครัวของคุณนุชกับคุณวิเชียร พี่ชายสามีพี่อ้อยพาลูกหลานกับพี่เลี้ยงมาหลายคน กลับได้นอนกระท่อมที่มีแค่สองห้องนอน ดิฉันก็เกรงใจพยายามพูดให้เขามานอนทางนี้ แต่พวกเขาทำหน้าแปลกๆ มองตากันแล้วบอกว่าไม่เป็นไร นอนหลังนั้นดีกว่าเพราะใกล้กับบ้านใหญ่ดี
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)
เรื่องผี ที่ได้รับความนิยม
-
"ศิษย์อาจารย์ใหญ่" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณผู้ห่วงใย ดิฉันมีอาชีพรับราชการ เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคตะ...
-
"หมวยเล็ก" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกมีคนไปเผาต้นโพธิ์ในซอย เมื่อปีกลายนี้ครอบครัวหนูย้ายจากเจริญพาสน์ไปอยู่บางยี่เรือ เพราะใกล้ที่ท...
-
เมื่อปี พ.ศ.2549 ช่วงเดือนสิงหาคม ผมได้ไปเที่ยวจังหวัดประจวบฯ ที่อ่าวมะนาว โดยไปกับเพื่อนๆ รวมผมด้วยเป็น 4 คน เป็นผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 2 คน...