"หมวยเล็ก" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกมีคนไปเผาต้นโพธิ์ในซอย
เมื่อปีกลายนี้ครอบครัวหนูย้ายจากเจริญพาสน์ไปอยู่บางยี่เรือ เพราะใกล้ที่ทำงานของพ่อมากกว่า บ้านเช่าเราอยู่แถววัดอินทาราม เห็นเขาเรียกกันว่าวัดกลางค่ะ ใกล้ๆ กับวัดเวฬุราชินกับวัดจันทราราม
หนูไปอยู่ไม่นานก็รู้จักกับเพื่อนบ้านและเพื่อนรุ่นเดียวกัน หลายๆ คนบอกว่าแถวนี้ผีดุนะ ระวังตัวเอาไว้ด้วย
มีต้นโพธิ์ใหญ่ริมทางเดิน เขาเรียกเจ้าพ่อโพธิ์ ชาวบ้านนับถือว่าศักดิ์สิทธิ์มาก และผีดุด้วย เห็นมีผ้าเขียวๆ แดงๆ สีเหลืองก็มี สีชมพูก็มี ทั้งเก่าและใหม่พันอยู่เต็มโคนต้น แถมยังมีตุ๊กตาดินเผารูปคนรูปสัตว์กับก้านธูปเกลื่อนกลาดไปหมดเลยค่ะ
มีคนไปบนบานศาลกล่าวเจ้าพ่อด้วยเรื่องต่างๆ เช่น ปัญหาครอบครัว มีหนี้สิน ผัวมีเมียน้อย ลูกติดยา ขนาดไปบนให้ลูกหลานแคว้วคลาดจากการโดนเกณฑ์ทหารก็มี
ส่วนมากก็คือไปขอหวยเจ้าพ่อ เมื่อถูกหวยก็มาแก้บนกัน คนแทงหวยผิดไม่มีใครโทษเจ้าพ่อหรอกค่ะ แต่บอกว่าตัวเองดวงไม่ดี ไม่มีลาภต่างหาก
เขาเล่นกันว่า เคยมีวัยรุ่นเมาเหล้าเดินกลับบ้านตอนกลางคืน ร้องท้าทายเจ้าพ่อว่าถ้าแน่จริงให้ปรากฏตัวซึ่งๆ หน้า แทบไม่ขาดคำก็เห็นงูเห่าตัวดำมะเมื่อมยาวเป็นวาโผล่พรวดขึ้นมาตรงโคนโพธิ์ ตาแดงจ้าเหมือนแสงไฟ อ้าปากแลบลิ้นอยู่ระหว่างเขี้ยวยาวโง้ง ขาววะวับ
วัยรุ่นจอมซ่านอกจากจะหายเมาแล้วยังสติแตก หงายหลังตึง แผดร้องโหยหวนสุดเสียง ลุกขึ้นได้ก็วิ่งกระเซอะกระเซิง ร้องตะโกนแต่ว่า ช่วยด้วยๆ ล้มลุกคลุกคลานไปสิ้นสติที่หน้าบ้าน
รุ่งขึ้นนอนจับไข้อยู่หลายวัน เลิกกันเหล้าตั้งแต่นั้นมา!
อีกรายหนึ่งเป็นชายวัยกลางคน เมาเพียบมาตอนดึกแล้วหยุดฉี่ใส่ต้นโพธิ์อย่างหน้าตาเฉย กลับไปนอนได้ไม่นานก็ลุกขึ้นมาร้องโอดโอย ปวดท้องจนใจจะขาดแล้ว
รุ่งเช้า ลูกเมียต้องรีบไปจุดธูปขอขมาอาภัยเจ้าพ่อโพธิ์ ขอให้ท่านยกโทษด้วยเถิด คนผิดก็สำนึกผิดแล้ว ต่อไปสาบานว่าจะไม่ล่วงเกินลบหลู่เจ้าพ่อโพธิ์อีกเด็ดขาด..อาการปวดท้องของชายคนนั้นก็หายไปค่ะ
เขาว่าเมื่อแกเดินผ่านต้นโพธิ์ทีไรเป็นต้องยกมือไหว้ทุกที เข้าตำราที่เขาว่าไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่!
เวลาเดินผ่านตอนเย็นๆ หนูอดมองหวาดๆ ไม่ได้ ส่วนมากไม่มีอะไรหรอก แต่บางทีจู่ๆ ยอดโพธิ์ก็ไหวซ่าจนหนูสะดุ้ง ใจหายวาบเมื่อนึกได้ว่าไม่มีลมพัดสักวูบเดียว เล่นเอาวิ่งอ้าวเลยค่ะ
หนูไปอยู่ได้ราว 2-3 เดือนก็เกิดเรื่องน่าขนหัวลุกขึ้น!
ผัวเมียคู่หนึ่งชื่อลุงเวกกับป้าต่าย บ้านอยู่ถัดไปทางก้นซอยไม่กี่หลัง ลุงเวกเป็นช่างไม้ ป้าต่ายขายผลไม้ที่ปากซอย มีลูกๆ วัยรุ่นก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน พ่อขี้เมา แม่ชอบเล่นไพ่กับแทงหวย หาเงินได้เท่าไหร่ก็หมดไปกับอบายมุข มีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งจนถึงกับด่าทอ ตบตีกันเป็นประจำ
ชาวบ้านรำคาญมาก แต่ไม่รู้จะทำยังไง จนกระทั่งวันหนึ่งมีเรื่องใหญ่โตเพราะป้าต่ายได้เลขเด็ดจากเจ้าพ่อโพธิ์เลยทุ่มแทงจนบาทสุดท้าย
นอกจากจะไม่ถูกหวงแล้วยังเป็นหนี้เขาอีกด้วย เพราะมีการแทงเงินเชื่อเพิ่มเติบอีกเกือบหนึ่งพันบาท
ลุกเวกรู้ข่าวตอนเมากลับบ้านก็ทะเลาะกันดังลั่น ลงท้ายก็ตบตีกันโครมครามจนเพื่อนบ้านบอกว่าจะแจ้งตำรวจ แต่ลุงเวกเหมือนกับคนบ้าคลั่งไปแล้ว แกด่าทั้งเมียและเจ้าพ่อ หอบหนังสือพิมพ์เก่าๆ ปึกหนึ่งไปจุดไฟที่โคนต้นโพธิ์ พร้อมกับตะโกนด่าสาดเสียเทเสีย
"กูจะเผาให้หมด! ไม่ศักดิ์สิทธิ์จริงนี่หว่า หลอกให้เมียกูแทงหวยจนฉิบหายขายตัวแล้ว ไอ้ริยำ!
ไฟโหมคึ่กๆ ที่กองหนังสือ แต่ไม่ระคายต้นโพธิ์ใหญ่หรอกค่ะ ชาวบ้านมามุงดูกันเต็ม หลายคนร้องห้ามปรามแต่ลุกเวกไม่แยแส..จนกระทั่งมีเสียงใครคนหนึ่งร้องตะโกนว่า..ไฟไหม้บ้านตาเวก!!
คราวนี้ต่างตกตะลึงพรึงเพริดไปตามๆ กัน
ยอดโพธิ์ไหวซ่าคล้ายเสียงใครกลุ่มใหญ่หัวเราะครืนอย่างเย้ยหยัน ลุงเวกหยุดชะงัก แว่วเสียงร้องช่วยด้วยๆ ไฟไหม้..มาจากบ้านแกนั่นเอง
เมื่อลุงเวกวิ่งกลับบ้าน มีคนอื่นๆ วิ่งตามไปด้วย ไฟกำลังลุกไหม้ห้องครัว ป้าต่ายได้แต่ร้องช่วยด้วยๆ คล้ายคนบ้า ลุงเวกก็ทำอะไรไม่ถูก เคราะห์ดีที่ชาวบ้านช่วยกันดับไฟได้ทันท่วงที
ลงเอยด้วยการสันนิษฐานว่าไฟฟ้าลัดวงจร..กับป้าต่ายเลิกเล่นไพ่เล่นหวย ส่วนลุงเวกก็เลิกเหล้าได้เด็ดขาดตั้งแต่นั้นมา หนูเห็นแกยกมือไหว้ต้นโพธิ์ทุกครั้งที่เดินผ่านค่ะ
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น