เจ้าของคอนโดฯ
Labels:
เรื่องผี
"จารุนันท์" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากคอนโดฯ ย่านประตูน้ำ
ดิฉันกับครอบครัวเพิ่งย้ายจากต่างจังหวัด เข้ามาอยู่กรุงเทพฯ เมื่อปีที่แล้วนี่เอง สาเหตุที่ย้ายก็เพราะหน้าที่การงานของสามีค่ะ ลูกสาวอายุ 8 ขวบ กับลูกชาย 5 ขวบก็ตามมาด้วย มาหาโรงเรียนใหม่ ได้เพื่อนใหม่ๆ พวกแกปรับตัวง่ายๆ ไม่ลำบากอะไรเลย
ครอบครัวเราโชคดีได้เช่าคอนโดฯ อยู่แถวประตูน้ำนี่เอง
นอกจากราคาจะไม่แพงแล้ว ห้องก็สวยงามน่าอยู่ น่าสบาย ไม่เก่า มีห้องรับแขก ห้องครัวเล็กๆ กับสามห้องนอนแน่ะค่ะ ที่สำคัญคือใกล้ที่ทำงานของสามีและใกล้โรงเรียนของลูกๆ
ดิฉันเองเป็นแม่บ้านเต็มตัว ใช้เวลาว่างทำขนมคุกกี้ไปฝากคนรู้จักขายตอนเช้าตอนบ่ายก็ไปรับไปส่งลูกๆ พอถึงสุดสัปดาห์ ถ้าว่างก็จะพากันกลับไปเยี่ยมบ้านของเราที่ต่างจังหวัด
ไม่มีที่ใดจะสุขเหมือนบ้านเราจริงๆ นะคะ!
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความรู้สึกนี้หรือเปล่า ที่ทำให้พวกเรา พ่อ แม่ ลูก รู้สึกแปลกๆ เมื่อเข้ามาอยู่ในคอนโดฯ นี้ใหม่ๆ ดิฉันบอกว่าคงเป็นเพราะแปลกที่น่ะ แต่ลึกๆ แล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่ามันมีอะไรพิกลๆ
อย่างแรกก็คือ เราต่างรู้สึกว่ามีใครมองเราอยู่เกือบตลอดเวลา...บางทีสามีถึงกับลุกจากโต๊ะกินข้าวไปดูตามซอกหลืบของบ้าน ว่าจะมีใครเข้ามาแอบอยู่หรือเปล่า?
ยิ่งอยู่นานมันก็ชักจะหนักข้อเข้าทุกวัน!
มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ดิฉันรู้สึกว่ามีใครมาจ้อง จึงเงยหน้าขึ้นโดยสัญชาตญาณ...แวบนั้นก็เห็นศีรษะคนหลบวูบเข้าไปหลังประตูห้องนอน ตอนนั้นคิดว่าเป็นลูกสาวคนโตก็เลยลุกเดินไปดู ปรากฏว่าในห้องนอนยังปิดไฟมืด และไม่มีใครเลย
ถึงอย่างนั้นดิฉันก็ไม่กลัวนะคะ แต่คิดด่าเราตาฝาด อุปาทานไปเอง
หลังจากวันนั้น ดิฉันเริ่ม "เห็น" เงาคนหลบวูบไปมา คล้ายกับกำลังเล่นจ๊ะเอ๋หรือซ่อนแอบ คราวนี้ยอมรับว่าเริ่มกลัวแล้วล่ะค่ะ...ดิฉันเล่าให้สามีฟัง เขาบอกว่าเขาก็เห็นเหมือนกัน...เอาละซี!
หนักกว่าดิฉันด้วยซ้ำ คือที่เขาเห็นน่ะไม่ได้มีแค่คนเดียวด้วย เพราะบางทีเป็นผู้ชายหนุ่ม บางทีเป็นผู้หญิงสาว แถมยังเคยเห็นเด็กสองคนยืนตัวแข็งทื่อที่ระเบียง
สามียืนยันว่าเห็นชัดเชียวล่ะ เพราะแม้จะเป็นเวลาค่ำ แต่แสงไฟจากห้องกินข้าวของเราส่องไปถึง...แม่หนูนั่นแต่งกระโปรงชุดสีชมพู อายุอานามเท่าลูกสาวของเรา...เขาคิดว่าลูกไปยืนอยู่ตรงนั้น แต่พอหันกลับมาอีกที ลูกเพิ่งเดินออกมาจากห้องค่ะ
ความจริงเขาปิดเรื่องเด็กผู้หญิงนั่นอยู่นาน เพราะเกรงว่าดิฉันจะกลัว ส่วนตัวเขาน่ะเชื่อแล้วว่าที่นี่มีผี
เมื่อเป็นอย่างนี้เราก็ปรึกษากันว่าจะหาที่อยู่ใหม่ดีกว่า เราเริ่มดูๆ กันแล้ว แต่มันแพงมากค่ะ ไกลด้วย ไม่สะดวกเหมือนที่นี่เลยสักแห่งเดียว ดิฉันเลยบอกว่า ...คิดดูอีกที ใครก็ตามที่เราเห็น (ไม่ใช่มนุษย์แน่) เขาก็ไม่เคยทำอันตรายเรา ไม่เคยหลอกหลอน แต่รูปการณ์มันเหมือนว่าเราเหลือบไปเห็นพวกเขาเอง
ในที่สุดเราก็อดรนทนไม่ได้ ต้องสืบกันล่ะค่ะว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่?
คนดูแลคอนโดฯ ก็ดี๊ดีนะคะ เขาไม่ปิดบังเลยว่า ...ก่อนที่เราจะมาอยู่ได้ราว 2 ปีเศษ มีครอบครัวหนึ่งเหมือนเรามาก คือ มีพ่อ แม่ และลูกๆ แต่เป็นลูกสาวทั้งคู่ค่ะ
น่าแปลกที่อายุก็รุ่นราวคราวเดียวกับเรา คือ คนพ่ออายุราว 35 แม่อายุ 32 ลูกสาวอายุ 7-8 ขวบ กับ 4-5 ขวบ ทุกคนมีนิสัยดี เพื่อนๆ ในคอนโดฯ รักครอบครัวนี้มากเชียวละ แต่แล้วก็เกิดเหตุร้าย พวกเขาประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิตพร้อมกันทั้งหมด
ทุกคนใจหายเมื่อรู้ข่าว ห้องของพวกเขาทิ้งไว้อย่างนั้น จนญาติๆ มาจัดการขนย้ายข้าวของ และบอกให้ทางคอนโดฯ จัดการบอกเช่า
ทีแรกพวกญาติๆ จะมาอยู่เอง แต่ก็คงกลัวผีน่ะแหละค่ะ!
พอเจ้าของคอนโดฯ ทราบเรื่องนี้เข้า เขามาขอพบดิฉันและขอโทษที่ไม่ได้เล่าให้ฟัง ดิฉันบอกว่าไม่เป็นไรเลย เขาก็ไม่จำเป็นต้องเล่านี่คะ...ครอบครัวนั้นไม่ได้ตายที่นี่ วิญญาณไม่ได้เฮี้ยน หลอกหลอนสักหน่อย (อาจมีหลอนบ้าง) ใครจะไปคิดล่ะคะ? จะว่าไปแล้วครอบครัวนั้นไปตายที่อื่น ...ห้องคอนโดฯ นี่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับความตายเลย
คนดูแลสารภาพว่า เขาเองเคยเห็นเด็กๆ ที่ตายไปแล้วมายืนรอลิฟต์ เห็นแต่ข้างหลังนะคะ บางวันก็เห็นคนเป็นแม่ผลักประตูเข้ามา แต่มองอีกทีก็กลายเป็นคนอื่นไปเฉยๆซะยังงั้น
ทำไงดีล่ะคะทีนี้ ..พูดถึงความรู้สึกพวกเราน่ะ!
กลัวน่ะกลัวแน่...หวาดๆ ว่าวันดีคืนดีกำลังนอนๆ อยู่ แล้วเขามาขอเตียงคืนจะทำยังไงกัน? บรื๋อส์...
สรุปแล้ว ดิฉันกับสามีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้พวกเขา และจุดธูปบอกว่า ขออยู่เถอะ! เพราะที่นี่เป็นโลกมนุษย์...เขาที่มีเพียงวิญญาณควรจะไปสู่สุคติ ชาตินี้หมดทุกข์หมดโศกแล้ว
ดิฉันคิดว่าพวกเขาเสียชีวิตอย่างปุบปับ ไม่ทันรู้เนื้อรู้ตัว ร่างกายแหลกสลายไปแล้ว แต่จิตวิญญาณยังกลับมาอยู่ที่เก่าด้วยความคุ้นเคย โดยเฉพาะความผูกพันอย่างที่พวกเราเคยได้ยินกันบ่อยๆ
ในเมื่อหลายคนยืนยันว่า พวกเขายามมีชีวิตอยู่เป็นคนนิสัยดี ดิฉันได้แต่หวังว่าเมื่อเป็นผี นิสัยก็คงเหมือนเดิม
ยอมรับตรงๆ ว่ากลัวนะคะ แต่ไม่มีปัญญาย้ายไปไหน อย่างน้อยก็ในปีสองปีนี้ เห็นท่าจะต้องอยู่กับผีไปเรื่อยๆ ได้แต่หวังว่าบุญกุศลคงจะชักนำวิญญาณที่น่าสงสารเหล่านั้นไปสู่ที่ชอบ ด้วยเถอะค่ะ
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
เรื่องผี ที่ได้รับความนิยม
-
เมื่อปี พ.ศ.2549 ช่วงเดือนสิงหาคม ผมได้ไปเที่ยวจังหวัดประจวบฯ ที่อ่าวมะนาว โดยไปกับเพื่อนๆ รวมผมด้วยเป็น 4 คน เป็นผู้ชาย 2 คน ผู้หญิง 2 คน...
-
"ศิษย์อาจารย์ใหญ่" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณผู้ห่วงใย ดิฉันมีอาชีพรับราชการ เป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งทางภาคตะ...
-
"หมวยเล็ก" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกมีคนไปเผาต้นโพธิ์ในซอย เมื่อปีกลายนี้ครอบครัวหนูย้ายจากเจริญพาสน์ไปอยู่บางยี่เรือ เพราะใกล้ที่ท...
คอนโดน่ากลัวมากๆครับ
ตอบลบถ้าเจอเอง จะย้ายก็เสียดายค่าประกัน
ตอบลบคอนโดแบบนี้ต้องคนใจกล้านะ
ตอบลบแต่ก็ดีกว่านอนวัดนะเราว่า
คอนโดได้เห็นวิวสวยๆด้วย