ป้ายกำกับ

โรงงานผีสิง ปากน้ำ


"ลูกพ่อขุน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากโรงงานที่ปากน้ำ

ผมทำงานเกี่ยวกับการออกแบบให้กับโรงงานแห่งหนึ่งแถวสมุทรปราการ ห้องทำงานของผมอยู่ด้านในสุดของตัวตึก 3 ชั้น ซึ่งยาวเหยียดเหมือนอาคารโรงเรียน แถมห้องนี้ก็อยู่บนชั้น 3 อีกด้วย

หลายคนอาจเห็นว่ามันน่ากลัวจนขนหัวลุก แต่ผมชอบเพราะว่ามันสวยดี

ตอนค่ำ ทุกคนจะกลับบ้านหมด เหลือแค่ยามกับภารโรง ไฟฟ้าบนตัวตึกก็เปิดอยู่ตรงระเบียงไม่กี่ดวง มันเป็นช่วงเวลาที่หัวคิดผมมักจะแล่น ดังนั้น ผมจึงมักอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์เพียงลำพังบนตึกอันเวิ้งว้าง

ห้องผมกว้างขวางไม่ใช่ย่อย เพราะไม่ได้มีแค่ผมคนเดียวนี่ครับ เรานั่งทำงานกันหลายโต๊ะ ตอนกลางคืนก็ดับไฟบางส่วน เปิดสว่างแต่ตรงที่ผมนั่ง

เคยมีคนถามว่าไม่กลัวเรอะ?

ผีเด็กแมนชั่น

เรื่องราวสยองขวัญเผชิญวิญญาณที่จะเล่าต่อไปนี้เกิดขึ้นกับตัวดิฉันเอง ที่ดิฉันเจอ มันจะมาในลักษณะคล้ายกับโดนผีอำ แต่มัน น่ากลัวมาก ๆเหมือนจริง เรื่องราวนี้เกิดขึ้นกับดิฉันตอนเช่าแมนขั่นอยู่กับญาติ ๆ แมนชั่นแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นมาประมาณ 10 กว่า ปีแล้ว บรรยากาศภายใน เงียบ มากจนทำให้เข้ามาเดินแล้วรู้สึกขนลุกอย่างบอกไม่ถูก
มีอยู่วันหนึ่งขณะที่ดิฉันนอนหลับกลางวันอยู่บนเตียงนอน ดิฉันก็เห็นเด็กสองคนอายุประมาณ 4 ขวบ วิ่งเล่นกันอย่าง สนุกสนาน เสียงดังมากจนดิฉันรู้สึกหนวกหูอย่างมากเลยลุกขึ้นมาต่อว่าให้เด็กสองคนนั้นเงียบ ๆ หน่อย เด็กสองคนนั้นพอได้ยินดิฉันว่า ก็หยุด และหันมามองดิฉัน เป็น ตาเดียวกัน ท่าทางของเด็กสองคนไม่ค่อยพอใจดิฉันนัก ตอนนั้นความรู้สึกของ ดิฉันมันคล้ายกับครึ่งหลับ ครึ่งตื่น ครึ่งจริงครึ่งไม่จริง จะลุกขึ้นก็ไม่มีแรง แล้วเด็กสองคนนั้นก็ฉุดรั้งแขนดิฉันให้ลุกออกมาจากเตียงนอนพร้อมกับพูดกับดิฉันว่า "เตียงของหนู ... เตียงของหนู" แต่ดิฉันก็ไม่สนใจที่จะทำตามที่เด็กสองคนนั้นพูด แล้วเสี้ยววินาทีดิฉันก็ต้องเบิกตาสว่างทันที

ฝรั่งถูกผีเข้า

เหตุการณ์ดังกล่าวยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับหนัง 2 เรื่อง เรื่องหนึ่งเป็นหนังอเมริกัน ชื่อ The Exorcism of Emily Rose เข้าฉายในบ้านเราเมื่อ 2 ปีก่อนเห็นจะได้ แต่กลับกลายเป็นคดีความระดับชาติ เป็นเป้าสนใจของสื่อมวลชนทั่วโลก และที่สำคัญมาจากต้นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 1 คน

ส่วนอีกเรื่องชื่อว่า Requiem เป็นหนังจากประเทศเยอรมนี – ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุจริงของเรื่องราวในคราวนั้น

ควรเริ่มต้นด้วยการแนะนำผู้เสียหายหลักอย่างเป็นทางการเสียก่อน
เธอชื่อ อันเนลีส มิเชล เกิดเมื่อวันที่ 21 กันยายน 1952 ที่หมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่งในแคว้นบาวาเรีย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเยอรมนี

อันเนลีสเป็นลูกคนที่ 2 ของ โจเซฟ กับ อันนา มิเชล พี่น้องอีก 4 คนของเธอล้วนแล้วแต่เป็นผู้หญิงทั้งสิ้น และในปัจจุบันมีเพียง 3 คนเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่
ตามประวัติบอกว่า โจเซฟกับอันนาเป็นคาธอลิกที่เคร่งครัดขนาดหนัก ตัวโจเซฟเองเคยคิดที่จะศึกษาบวชเรียนเป็นนักบวช
นอกจากนั้นพี่น้องผู้หญิงของทั้งตัวเขาและฝ่ายภรรยาก็อุทิศตัวให้ศาสนา ดำรงตนเป็นนางชีรวมแล้วถึง 3 คนด้วยกัน

พยาบาลห้องพิเศษ

"เด็กแนวใหม่" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากโรงพยาบาล

พี่สาวผมไปคลอดลูกที่โรงพยาบาลใกล้บ้าน แถวๆ ธนบุรีนี่ละครับ เป็นโรงพยาบาลที่ใหญ่ทันสมัย บรรยากาศทั่วๆ ไปไม่มีอะไรน่ากลัว แต่พอเดินเข้ามาในห้องที่ผมนอนอยู่นี่ซิ มันขนหัวลุกยังไงบอกไม่ถูก

แม่สั่งว่าตอนเย็นๆ หลังเลิกเรียนแล้ว อย่าเพิ่งกลับบ้าน ให้ไปที่โรงพยาบาลเพื่อสับเวรให้แม่กลับมาทำกับข้าวที่บ้านก่อน

แม่กำลังเห่อหลานคนแรกไงครับ!

พี่ผมเป็นลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนเสียด้วย แม่เลยไปเฝ้าทั้งวันทั้งคืน ทิงให้พ่อกับผมอยู่โยงบ้านดูแลบ้าน ตกเย็นแม่จะมาทำกับข้าวขึ้นโต๊ะไว้ให้เราเรียบร้อย จากนั้นแม่จะอาบน้ำ ซักผ้าเก่า เอาเสื้อตัวใหม่ไปนอนเฝ้าพี่จอยที่โรงพยาบาล

มือปริศนาจากศพเด็กจมน้ำ

รายการเรื่องจริงผ่านจอ มือปริศนาจากศพเด็กจมน้ำ 2009

ปลูกบ้านทับ หลุมศพ วิญญาณตามรังควาญ

เหตุการณ์ที่คุณอำนาจ บุญมานนท์ เล่ามา... ทำให้ผมและเพื่อนทีมงานต้องเดินทางมาที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ทันที คุณอำนาจบอกมาในจดหมายว่า บ้านที่คุณอำนาจอาศัยอยู่ทุกวันนี้ มีเรื่องราวแปลกๆ เกิดขึ้นเป็นประจำ ที่แรกวิทยุสเตอริโอ.ในห้องนอน จู่ๆ ก็เกิดดังขึ้นมาเอง จากนั้นตู้เย็นก็เปิดออก ข้าวของในตู้เย็นซึ่งเป็นอาหารจำพวกเนื้อสด ถูกลากออกมาจากช่องแช่แข็งหรือช่องฟรีซ จากนั้นคนในบ้านก็พากันล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ
สภาพบ้านของคุณอำนาจ จัดว่าสภาพค่อนข้างดีทีเดียว เขาเล่าให้ฟังว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านเช่า เจ้าของบ้านเป็นชาวอังกฤษ ....
"แต่ภรรยาเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ เจ้าของบ้านจึงประกาศขายบ้านหลังนี้ เพราะเขามีธุรกิจอยู่ที่กรุงเทพฯ ฐานะของเขาจัดว่ามีอันจะกินเลยทีเดียว"
"เขาตั้งราคาหลังละเท่าไหร่?"
"4 ล้านบาท แต่ไม่มีคนซื้อ"
"ผมคิดว่ามันแพงไปหน่อยนะ สภาพเศรษฐกิจแบบนี้ใครจะซื้อ"
"ก็มีคนสนใจมาดูเหมือนกัน แต่พอดูแล้วก็หายจ้อยไปเลย เท่าที่ทราบดูเหมือนมีคนมาขอดูบ้าน 5-6 เจ้า
แต่รายล้วนเป็นเศรษฐีแทบทั้งสิ้น แต่พอเขาเห็นภายในตัวบ้าน เขาก็รีบกลับกันหมด"

โค้งร้อยศพเฮี้ยนจัด!

ชาวบ้านผวาโค้งร้อยศพ ที่โค้งเหมืองผ่า จ.เชียงใหม่ เชิญ เกจิดัง เจ้าพิธีกรรมไสยศาสตร์ ทำพิธียกเลิกระบบตัวตายตัวแทน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า (6 ส.ค. 54)ที่บริเวณทางโค้งเหมืองผ่าหรือโค้งปากท่อ จุดบริเวณหน้าปากทางเข้าหมู่บ้านแก้วสา ถ.โชตนา ต.ริม เหนือ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้มีพิธีกรรมทางศาสนา และพิธีสูดถอนวิญญาณเร่ร่อนรอเกิด ตามความเชื่อของชาวบ้านโดยทาง ชาวบ้านได้นิมนต์พระเกจิชื่อดังแห่งล้านนา พระครูสิริศีลสังวร หรือ ครูบาน้อยเตชปัญโญ เจ้าอาวาส วัดศรีดอนมูล อ.สารภีเชียงใหม่ และเชิญเจ้าพิธีกรรมด้านไสยศาสตร์ลี้ลับ ชื่อดัง คือ นายสถาพร ช่างสมบูรณ์ หรือ อ.สถาพร อดีตพระจอมขมังเวทย์ มาทำพิธีแผ่เมตตา และพิธีสูดถอนดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตขอให้บรรดาวิญญาณผีตายโหงที่เกิด จากอุบัติเหตุต่างๆไม่ว่าจะถูกรถชนตายจำนวนมากในแต่ละปี และถูกทำร้ายตายลอยน้ำมาติดอยู่ใต้ทางโค้งแห่งนี้ ให้ไปผุดไปเกิดหรือย้ายไปยังจุดอื่นและจะได้ยกเลิก "ระบบตัวตายตัวแทน" บนทางโค้งอันตรายแห่งนี้

ผีวัดสะพาน

" ยอดยิ่ง"เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากป่าช้าผีดุ

สมัยหนุ่มผมอยู่มักกะสัน หลังวัดทัศนารุญสุนทริการาม หรือที่ชาวบ้านร้านช่องทั่วๆ ไปเรียกว่า "วัดสะพาน" นั่นเอง

วัดนี้เคยได้ชื่อว่าผีดุนักหนา ขึ้นชื่อลือชาไปถึงประตูน้ำ สนามเป้ายันทุ่งพญาไท...ถนนวิภาวดีฯ หรือชื่อเดิมคือซูเปอร์ไฮเวย์เพิ่งสร้างเสร็จใหม่ๆ ตกค่ำก็แทบจะไม่มีรถแล่นให้เห็นเพราะยังเปล่าเปลี่ยวเต็มที ใครอยู่ที่นั่นก็ถือว่าอยู่ชานเมืองแล้ว

นอกจากขึ้นชื่อลือชาว่าผีดุเพราะเป็นวัดเก่าแก่ บ้านเรือนยังไม่คับคั่งเหมือนยุคต่อมา ยังมีคนเล่าว่าเคยเห็นเปรตที่วัดสะพานอีกต่างหาก

จากหมู่บ้านริมถนนราชปรารภเข้าไปถึงป่าช้า จะมองเห็นหลุม ศพระเกะระกะเรียงรายกันหลายสิบหลุม มีป้ายเขียนชื่อ-สกุลเอาไว้ง่ายๆ ต้นไม้ใหญ่น้อยขึ้นร่มครึ้มบรรยากาศแสนจะเยือกเย็นน่าวังเวงใจแค่ไหนก็คงพอจะนึกออกนะครับ

หลวงปู่หลอด ปโมทิโต เผชิญอำนาจวิญญาณร้ายเข้าสิง

หลวงปู่หลอด ปโมทิโต ในวัยชราท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ในวัยฉกรรจ์... พระเถราจารย์ท่านนี้ยึดถือธุดงค์เป็นวัตรตลอดเวลา ๙ เดือนของกาลออกพรรษาเป็นเวลานับ ๑๐ ปี

ตลอดเวลาอันยาวนานซึ่งหลวงปู่หลอดจาริกสู่ป่าเขาอันเปล่าเปลี่ยว ห่างไกลจากผู้คนพลุกพล่านและร้อนเร่าด้วยไฟกิเลส ก็เพื่อพารูปกายสังขารนี้ไปสู่ความวิเวก มุ่งหน้าฝึกจิตด้วยการปฏิบัติสมณธรรมอย่างอุกฤษฏ์ มุ่งมั่นตัดขาดปวงกิเลสทั้งหลายซึ่งเกาะติดจิตวิญญาณข้ามภพข้ามชาติเหลือที่จะนับมาแล้วให้จงได้
และในห้วงเวลาดังกล่าวนั้น หลวงปู่หลอดได้เผชิญกับประสบการณ์ซึ่งไม่ผิดกับพลังแห่งสัจจธรรมที่หล่อหลอมดวงจิตให้แข็งแกร่งภายใต้สติอันมั่นคง
ดังเช่นการเผชิญกับเสือเป็นครั้งแรกในชีวิตของท่าน

ผีบนเกาะกลางลำน้ำปิง

สมัยก่อน แม่น้ำปิงแถว อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ มีความกว้างมาก และจะมีเกาะอยู่กลางน้ำ ผู้คนส่วนมาก ประกอบอาชีพทางค้าขายริมแม่น้ำเพราะสมัยก่อนความเจริญการขนส่งอยู่ทางน้ำมาก เนื่องจากความเจริญไม่มากนัก บางทีในบางครั้งพวกเราเป็นเด็กมักชอบมาเล่นที่บริเวณริมแม่น้ำ

มักเห็นหลายสิ่งหลายอย่างลอยมาลำน้ำ บางทีเป็นศพลอยน้ำมาส่วนมากที่เห็นถ้าเป็นผู้หญิงส่วนมากจะนอนหงาย ผู้ชายจะนอนคว่ำ ลอยอืดขึ้นมาส่งกลิ่นเน่าเหม็นคุ้งเชียว เมื่อลอยผ่านมา ที่บรรพต ก็ต้องเป็นหน้าที่ของตำรวจ ที่จะลากนำร่างอันไร้วิญญานมาฝังไว้ที่บริเวณท้ายเกาะกลางแม่น้ำ หลายต่อหลายศพมีมาช้านานแล้วจนเป็นที่เลื่องลือถึงความน่ากลัว และบางทีกลางคืนจะได้ยินเสียงร้องโหยหวลดังมาจากเกาะสร้างความหวาดกลัวให้กับชาวบ้านที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำทั้งสองด้าน

ผีนางตานี

เรื่องจริงผ่านจอ ผีนางตานี ถ่ายภาพต้นกล้วย ติดผีนางตานี ส่งให้รายการมาตรวจสอบ

หลวงปู่อ่ำ ธมฺมกาโม เทศนาเรื่องผีนางตานี

“หลวงปู่อ่ำ ธมฺมกาโม” หรือ “พระครูสันติวรญาณ” เป็นพระมหาเถระผู้ใหญ่ที่พุทธศาสนิกชนทั่วไปกราบไหว้ยกย่องนับถือในวัตรปฏิบัติและปฏิปทา รวมทั้งการเทศนาสอนธรรมกัมมัฏฐาน ด้วยคำเทศนาหรือบทธรรมของท่าน ส่วนใหญ่จะเน้นในเรื่องหลักปฏิบัติเพื่อความพ้นทุกข์ภัยในชีวิตประจำวัน

หลวงปู่อ่ำ เป็นพระสายวัดป่าที่เน้นเรื่องการปฏิบัติวิปัสสนากัมมัฏฐานเป็นด้านหลัก และเป็นศิษย์รุ่นกลางของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายปฏิบัติวิปัสสนาชื่อดัง

ปัจจุบัน หลวงปู่อ่ำ สิริอายุ 80 พรรษา 41 (เมื่อปี พ.ศ.2550) ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสันติวรญาณ ต.วังศาล อ.วังโป่ง จ.เพชรบูรณ์




ผีลักซ่อน

"แพรว" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากสนามเด็กเล่น

โบราณท่านห้ามว่า ไม่ให้เล่นซ่อนหากันตอนพลบค่ำ เพราะผีจะมาลักเอาตัวไปซ่อนจริงๆ

ดิฉันมีเรื่องที่เจอมากับตัวเองมื่อ 30 กว่าปีก่อน ตอนนั้นดิฉันเพิ่งจะสิบกว่าขวบเท่านั้นเองค่ะ พ่อกับแม่รักมากเพราะเป็นลูกคนเดียว เราอยู่ในบ้านแถวหัวหมาก เวลาพ่อแม่ไปทำงาน ดิฉันก็จะอยู่กับคุณยายและสาวใช้ที่ทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงของดิฉันด้วย

ตอนเย็นๆ พี่เลี้ยงจะไปรับดิฉันจากโรงเรียนใกล้บ้าน ขณะที่คุณยายวุ่นอยู่กับการทำมื้อค่ำ...เวลาสี่โมงเย็นไปจนถึงตะวันตกดินนี่เป็นยามที่ดิฉันมีความสุขที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ได้ไปเล่นกับเพื่อนๆ ที่สนามเด็กเล่นในหมู่บ้าน

สนามเด็กเล่นนี้เป็นพื้นที่ขนาดสวนหย่อมเล็กๆ มีต้นไม้ ไม้ลื่น กระดานหก ชิงช้าหมุน และบาร์โค้ง...ดูสภาพแล้วก็เหมือนกับสนามเด็กเล่นทั่วๆ ไป พื้นเป็นทรายที่น่าเล่นมาก เหมือนกับชายหาดเลยละ เพราะมันสะอาดสะอ้านพอใช้

ผี..ผู้หญิงชุดขาวไม่มีหน้า

เรื่องที่ผมจะเล่านั้นเป็นเรื่องจริง"ที่เกิดขึ้นกับตัวเองตอนบวช และได้ไปอยู่ที่ป่าช้าแห่งนี้
เริ่มเรื่องเลยละกันคือตอนนั้นผมได้บวชอยู่ที่วัดปฏิบัติแห่งหนึ่งอยู่ที่จังหวัดนนทบุรี ซึ่งวัดนี้เป็นวัดปฏิบัติและมีสาขาต่างๆมากมายตามต่างจังหวัด สาขาส่วนมากจะเป็นที่หลบภาวนาทดสอบจิตซึ่งเป็นที่ๆคนไม่ค่อยไปอยู่กัน เช่นตามป่าลึกบ้าง ป่าช้าบ้าง และรวมถึงที่นี้ด้วย ก็คือป่าช้าที่ผมไปอยู่นี่เอง
ป่าช้านี้เป็นสถานที่ๆน่ากลัวอันดับต้นๆของบรรดาสาขาทั้งหมด พระบวชใหม่มักจะถูกพาไปทดสอบ"จิต"ที่นั้นเป็นประจำ ส่วนมากพระบวชใหม่ มักจะกลัวการมาป่าช้าที่นี่เกือบทุกองค์ เพราะคำเล่าลือจากครูบาอาจารย์ ที่ประสบพบเจอมา ตอนนั้นผมได้มาอยู่ที่ป่าช้านี้ ผมเดินทางมาทางรถไฟ มาถึงป่าช้านี้ตอนตี 5ก็ยังไม่สว่างดี ก้าวแรกที่เหยีบเข้าไปในป่าช้าคือลานธรรม ก็รู้สึกได้ทันที่ว่ามีบางอย่างจ้องมองเราอยู่ตลอดเวลา พอพระอาทิตย์ขึ้น

ห้องชั้น 6

"ปั้ม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากลิฟต์ในหอพัก

ผมกับเพื่อนๆ ยอมรับอย่างไม่อายว่า..เรากลัวผีครับ! ถึงแม้จะชอบอ่านเรื่องผี ดูหนังผี และฟังวิทยุรายการผีของพี่ป๋อง ตั้งแต่อยู่ที่บางปะกง ฉะเชิงเทรา จากเด็กมาจนถึงวัยรุ่นผมก็กลัวผีมาก เพราะมันเป็นอะไรที่ลึกลับและน่าตื่นเต้นมากๆ เลย

ขนาดมาเรียนต่อที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งย่านรังสิต เช่าหอพักอยู่กับเพื่อนชื่อเซ้ง เด็กแปดริ้วเหมือนกัน เรื่องความสนิทสนมหายห่วง นิสัยใจคอก็คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะเรื่องกลัวผีนี่เจ้าเซ้งดูเหมือนจะแซงหน้าผมด้วยซ้ำ

เขาว่าคนกลัวผีมักจะกลัวตั้งแต่เด็กไปจนแก่เลยละคุณ!

บอกเลยก็ได้ครับ...เราเพิ่งจะมาโดนผีหลอกตอนที่มาเช่าหอพักอยู่ที่รังสิตนี่เอง!

ขึ้นจากโลง

"กมลพร" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อวิญญาณมาเยือน

คุณมีความทรงจำย้อนไปได้ไกลสุดแค่ไหนคะ? ดิฉันคิดว่าราวขวบกว่าๆ เราก็เริ่มจำได้จนถึงบัดนี้ แม้ว่ามันกระท่อนกระแท่นเต็มที ดิฉันจำตอนตัวเองหัดเดินไปได้เลยล่ะค่ะ...เชื่อไหมคะ?

แต่ความทรงจำอันหนึ่งที่เป็นปริศนาชวนสยองเกิดขึ้น ตอนที่ดิฉันอยู่อนุบาลสอง...คิดแล้วก็ราวห้าขวบเห็นจะได้ เมื่อดิฉันย้อนรำลึกถึงทีไร ภาพใบหน้าก็เด่นชัดขึ้นทุกที...มันเป็นใบหน้าของพี่แต้ว-ลูกพี่ลูกน้องของดิฉันเอง เธอแก่กว่าราวสองปี และเป็นลูกคุณป้าวิไลพี่สาวแท้ๆ ของแม่ดิฉันเอง

พี่แต้วจมน้ำตาย แต่ในความคิดและการรับรู้ของดิฉันยามมีอายุแค่ห้าขวบนั้น...ความตายคืออะไรก็ไม่รู้ล่ะ รู้แต่ว่าพี่แต้วตายแล้ว กลับมาได้!

บอกเก้า เล่าสิบ - ตะขาบกินเนื้อคน

2 nov.10 ผลจากการเล่นคุณไสย์ แย่งเมียคนอื่น

แท็กซี่สยองขวัญ


เมื่อกลางเดือนกันยายนมีพายุพัดเข้ากรุงเทพฯ หลายลูก ฝนมักจะกระหน่ำตอนค่ำๆ ท้องฟ้าแดงฉาน อุ้มน้ำหนักอึ้ง ลมก็แรงอู้ๆ น่ากลัวมากครับ แต่ผมกลับชอบบรรยากาศแบบนี้ เพราะมันทั้งแรง มีพลังอัดแน่นและลึกลับ

คืนนั้น ผมไปส่งแฟนถึงบ้านเธอที่พุทธมณฑลสายห้า ทั้งที่เธอบอกว่าไม่ต้องส่งเพราะเป็นห่วงผมเหมือนกัน บ้านผมอยู่ประดิพัทธ์ ไกลกันคนละฝั่งฟ้าก็ว่าได้ แต่ผมไม่ยอมหรอกครับ พอรถเมล์มาผมก็โดดขึ้นไปกับเธอทันที ส่งจนเธอเข้าบ้านเรียบร้อยผมก็นั่งรถเมล์กลับ

ขณะนั้นเป็นเวลาราวสามทุ่ม มาถึงวงเวียนใหญ่สี่ทุ่มกว่าๆ ผมก้าวลงจากรถเมล์ ท้องฟ้าแดงฉาน มีฟ้าแลบสว่างวาบๆ แล้วคำรามกระหึ่มครืนๆ จนรู้สึกชัดถึงพลังกระแสไฟฟ้าที่แผ่ซ่านอยู่ในทุกอณูอากาศ คอยดูเถอะ เดี๋ยวต้องมีพายุใหญ่แน่ๆ

ผีสิงบ้านหลวง


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณปี 2538 ที่บ้านพักข้าราชการในจังหวัดอุบลราชธานี สถานที่นี้ก่อตั้งขึ้นมากว่า 50 ปีมาแล้ว คุณพ่อของดิฉันเป็นผู้บริหารสูงสุด มีบ้านพักเป็นเรือนไม้ ใต้ถุนสูง ล้อมรอบ ด้วยหน้าต่างบานสูง มีทางเดินเชื่อมไปสู่ เรือนครัว ลักษณะบ้านคล้ายกับบ้านพัก ตากอากาศชายทะเลสมัยก่อน ตรงข้าม บ้านพักจะเป็นเรือนรับรองรูปแบบเดียวกัน หากแต่ไม่มีเรือนเล็กเท่านั้น บ้านหลังนี้มี 3 ห้องนอน แต่ดิฉัน และน้องสาวนอนรวมกันในห้องเดียวกับพ่อแม่ แม่จึงจัดให้ห้องนอนที่ติดกันเป็นห้องนั่งเล่น และจัดให้ห้องนอนอีกห้องที่อยู่ห่างออกไปเป็นห้องแต่งตัว ซึ่งในห้องนี้เองที่มี โต๊ะเครื่องแป้งแบบโบราณ ทำจากไม้ มีลิ้นชักไว้เก็บของอยู่ 3 ชั้น โต๊ะนี้ เมื่อเราย้ายเข้ามาก็มีอยู่แล้ว เพราะเป็นสมบัติของหลวง ปกติบ้านนี้พ่อแม่อยู่กันสองคนดิฉันกับน้องสาวเรียนอยู่ที่กรุงเทพฯ จะกลับมา ช่วงปิดเทอมเท่านั้น
แรกเข้ามาอยู่ก็ไม่มีอะไร เหตุการณ์ปกติดีทุกอย่าง ต่อเมื่อคุณพ่อได้เดินทางไปราชการต่างจังหวัด ในกลางดึกคืนหนึ่ง ขณะที่ดิฉันกำลังเคลิ้มหลับ ก็ได้ยินเสียงดังกุกกักๆ เป็นเสียงที่ดังมาจากห้องแต่งตัว ดิฉันสะกิดเรียกน้องสาว เราสองคนก็เงี่ยหูฟัง เราคุยกันว่าอาจเป็นเสียงหนูก็ได้

หอพักผีสิง

"แต้ว" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากหอพักสยองขวัญ

ดิฉันเคยได้ยินเขาพูดกันมานานแล้วค่ะ ว่าคนกลัวผีมักจะโดน ผีหลอก ส่วนคนที่ไม่สนใจหรือไม่กลัวผีจะไม่โดนผีหลอก บอกตรงๆ ว่า ดิฉันคนหนึ่งละที่ไม่เชื่อเด็ดขาด!

ผีจะหลอกหลอนใคร หรือการปรากฏเป็นตัวตน เป็นเสียง หรือเป็น กลิ่นต่างๆ นั้น ผีไม่ได้มัวเลือกว่าใครจะกลัวหรือไม่กลัว นึกอยากจะหลอก ก็หลอกขึ้นมาดื้อๆ ถ้าสถานที่และโอกาสอำนวย เช่น ในวัดหรือตามซอยเปลี่ยวๆ เป็นต้น

วันนี้ดิฉันมีประสบการณ์เรื่องผีหลอกชนิดดุเดือดเลือดพล่านมาเล่า สู่กันฟังค่ะ!

จากเด็กบ้านนอกมาอยู่เมืองหลวงเพื่อเรียนหนังสือต่อ ตอนแรกก็อาศัยญาติๆ อยู่แต่แล้วก็ทนไม่ไหว ขนาดพ่อแม่จ่ายเงินแต่ญาติๆ ยังคิดว่าเราเป็นสาวใช้ซะอีก ต้องทำงานบ้านงกๆ ไม่เป็นอันพักผ่อน หรือมีเวลาดูหนังสือกับเขาหรอก การเรียนก็แย่ลงทุกที

ไม่อยากเป็นเด็กเก็บกด เลยส่งข่าวให้พ่อแม่รู้...ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าอยู่หอพักดีกว่า เสียเงินทองพอๆ กันแต่ไม่ต้องแบกจ๊อบเป็นสาวใช้ไปด้วยไงคะ

เรียนหนังสือก็อยู่หอ พอสอบเข้าพยาบาลได้ก็อยู่หออีกแล้ว!

แขกขาประจำ

"หนุ่มรัชดา" เล่าเรื่องขนหัวลุกเมื่อหนุ่มโฮสเตสไปนอนกับผี

จากคนที่ไม่เชื่อเรื่องผีๆ สางๆ อย่างผม วันดีคืนร้ายก็ซวยสุดขีดจนโดนผีหลอกเข้าอย่างจัง ขนาดผูกคอตายไปเมื่อคืนก่อนหยกๆ คืนนี้ยังโผล่มาเที่ยวผับเที่ยวเลานจ์ได้ก็แล้วกัน

อ้อ! เรื่องพี่แหม่มที่แกคิดถึงผมมากๆ จนวิญญาณต้องมาหา เล่นเอาหัวใจหวิดล่มสลายที่ผมเคยเล่าไปแล้วไงครับ ตอนนี้ผมเชื่อสนิทแล้วว่าผีมีจริง

เรื่องสยองขวัญใน "เลดี้คลับ" หรือ "ไนต์คลับของสุภาพสตรี" นี่มีเยอะแยะครับ เพื่อนร่วมงาน หรือโฮสเตสหนุ่มพวกผมที่มี 30-40 คนน่ะ ส่วนมากเคยผ่านประสบการณ์ "ผีหลอก-วิญญาณหลอน" มาทั้งนั้นแหละ จะจริงหรือโม้ก็ลองคิดดูละกัน

คืนไหนแขกน้อยเราก็ถือโอกาสจับกลุ่มคุยกันแก้เซ็ง!

แขกจะแน่นในคืนวันเสาร์, อาทิตย์และจันทร์ครับ ส่วนวันอังคาร, พุธ, พฤหัสบดีมักนั่งตบยุง วันศุกร์ค่อยยังชั่วหน่อย ผิดกับแหล่งบันเทิงของพวกผู้ชาย ไม่ว่าผับ, บาร์, เลานจ์, คาราโอเกะหรือโรงนวด ที่มักจะรับทรัพย์กันเนื้อๆ ในคืนวันศุกร์กับเสาร์

ตะลึงสาวทำแท้ง ดับคารถทัวร์ กู้ภัยยกศพไม่ขึ้น



เหตุสาววัยรุ่นตายปริศนาคารถทัวร์กรุงเทพฯ-แม่สอด เผยก่อนขึ้นรถมีหญิงสาวพูดสำเนียงพม่าพามาส่งให้คนขับช่วยดู บอกเพิ่งไปทำแท้งมา แต่เด็กไม่ยอมออก พอถึงแม่สอดกลายเป็นศพ กู้ภัยมายกศพยกเท่าไรก็ไม่ขึ้น จนต้องนิมนต์พระมา ลือสะพัดอาถรรพ์...

เมื่อ เวลา 08.00 น. วันที่ 17 มิ.ย. ร.ต.อ.พงศกร ธนะวัง ร้อยเวร สภ.แม่สอด รับแจ้งจาก นายสมชาย มีฉายี อายุ 40 ปี พนักงานขับรถทัวร์บริษัทเชิดชัยทัวร์ วิ่งระหว่าง กรุงเทพฯ-แม่สอด ว่ามีคนเสียชีวิตในรถขอไปตรวจสอบ จึงนำกำลังพร้อมแพทย์เวรโรงพยาบาลแม่สอด และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องไปตรวจสอบ

ผีย้ายวัด

"หนูแนน" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากวัดอินทารามวรวิหาร

หนูเป็นเด็กวัดกลางค่ะ หรือวัดอินทาราม ที่มีรูปพระเจ้าตากสินขี่ม้าชูดาบอยู่เหนือประตู ก่อนถึงวัดกลางจะเป็นวัดเวฬุราชิน ถ้าเลยบ้านหนูไปก็คือวัดจันทราราม พวกเราถึงเรียกว่าวัดกลางไงคะ

เรื่องนี้แปลกอย่างที่ญาติๆ หนูแถวภาษีเจริญเขาบอกไม่ใช่หรอก พวกเขาเรียกวัดอินทารามว่าวัดใต้ หนูก็งง ไม่รู้จะถามใคร

ชื่อนั้นสำคัญไฉน?

แม้เรียกกุหลาบว่าชื่ออื่น ดอกของมันก็ยังหอมใช่ไหมคะ!

หนูอ่านเจอในหนังสือน่ะค่ะ ไม่ใช่คิดเองหรอก เดี๋ยวจะเข้าใจผิด นิสัยหนูชอบอ่านภาษิตคำคม บางทีก็ต้องจดไว้กันลืม อย่างเช่น

"ถึงจะปิดทองหลังพระ ก็ทำให้ท่านเป็นสุขได้เหมือนกัน"

"ท้องทะเลมีขอบเขต แต่ความต้องการที่ลึกซึ้งไม่มีขอบเขตเลย"

"แพ้อย่างนักกีฬา ดีกว่าชนะอย่างอันธพาล"

"ฟ้าสูง แผ่นดินต่ำ จำไว้เท่านี้ก็พอ"

อาถรรพ์ “สมบัติปู่โสม” ถ้ำวังทอง


พิษณุโลก - ศิษย์สำนักสงฆ์เขาฤๅษีเมืองสองแคว เจอ “สมบัติปู่โสม” ในถ้ำวังทอง แต่เก็บไว้กับตัวเองไม่ได้ เจออาถรรพ์ทุกคืน เลยต้องมอบให้พ่อเมืองพิษณุโลก เผย มีทั้งพระพุทธรูปเชียงแสน-สิงห์ 1 อายุร่วมพันปี ล่าสุด “ปรีชา เรืองจันทร์” ผู้ว่าฯ เตรียมจัดแสดงในพิพิธภัณฑ์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เร็วๆ นี้

วันนี้ (7 มิ.ย.) ที่ศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก พระนิพนธ์ ฉนฺตจิตฺโต จากสำนักสงฆ์เขาฤๅษี ต.ชัยนาม อ.วังทอง จ.พิษณุโลก ได้นำโบราณวัตถุอายุหลายร้อยปีจำนวน 21 ชิ้น เช่น พระพุทธรูปเชียงแสนขนาดต่างๆ กริช, ดาบ ของใช้ศาสตราวุธของคนในสมัยโบราญ ที่เชื่อกันว่า เป็นชนชั้นปกครอง มามอบให้ นายปรีชา เรืองจันทร์ ผวจ.พิษณุโลก เพื่อเก็บไว้เป็นสมบัติของชาติต่อไป

พระนิพนธ์ ฉนฺตจิตฺโต บอกว่า ลูกศิษย์ไปเจอที่ถ้ำแห่งหนึ่งในพิษณุโลก เมื่อเดือนเศษที่ผ่านมา โดยไม่ขอเปิดเผยชื่อและสถานที่ที่พบ ทราบว่า ไปเจอกริชเล่มแรกบริเวณพื้นที่ไร่มันสำปะหลัง ใกล้กับถ้ำแห่งหนึ่ง ซึงมีก้อนหินปิดปากถ้ำอยู่ เกิดความสงสัย จึงใช้รถไถดันก้อนหินออก แล้วเข้าไปสำรวจภายในถ้ำ ก็เจอโบราณวัตถุเหล่านี้กองอยู่ในถ้ำ ลูกศิษย์คนดังกล่าวจึงนำกลับไปเก็บไว้ที่บ้าน แต่ก็ประสพกับอาถรรพ์ ปู่โสมมาทวงสมบัติคืนทุกวัน จนอยู่ไม่ได้ จึงต้องนำสมบัติโบราณมามอบให้อาตมา

เจอผี หรือเจอศพ ที่คลอง แถวลาดกระบัง


ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น
เรื่องนี้เกิดตอน สิงหาคม พ.ศ. 2548 เป็นเวลาเที่ยงคืนหลังจากกลับจากซีคอนฯ นั่งรถประจำทางมาลงแถวซอยจินดา ซื้อของเซเว่นเล็กๆน้อย มันก็คลองที่เดินผ่านบ่อยๆ ข้ามไปคณะเกษตร เลี้ยวถนนฉลองกรุง เพื่อเดินไปต่อที่คณะวิศวะ วันนั้นแวะไปนอนกับเพื่อนเพื่อที่จะไปทำงานที่ อ.แกลง ในตอนตี 5
คืนนั้นไม่มีพระจันทร์ ไฟบนสะพานก็มืด ปกติมันติดสว่างสลัวๆ เราก็เดินข้ามแบบสบายใจมองไปตามคลอง ที่มืดๆมองหันซ้ายเห็นโรงน้ำแข็งเก่าๆที่อยู่ไกลๆ อากาศเย็นๆ สบายๆ พอเริ่มเดินเกือบกลางสะพาน
โดยไม่คาดคิดไฟดับทั้งสะพานซีกซ้าย มันตกใจนิดๆ เพราะเดินมืดๆอาจสะดุดสะพานที่ชันได้ พอเดินต่อไปค่อนสะพานในช่วงที่โค้งลง ไฟมันก็กระพริบวูบหนึ่ง ในจังหวะที่เรามองลงไปในคลองที่มีผักตบชวา แล้วก็ต้องสะดุ๊ง! ขนลุกชัน ตัวอ่อนเสียงอ่อนไป ในริมคลองที่เป็นผักตบชวาที่มันเยอะๆ กลับมีผู้หญิงเปลือยลอยหงายอยู่ เหมือนมองมาทางเรา

ห้องอาถรรพณ์

"เสี่ยเท้ง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากห้องพักในโรงนวด

เขาลือกันมานานแล้วครับ ว่าย่านถนนรัชดาฯ น่ะผีดุอย่าบอกใครเชียว ถึงขนาดยกให้เลยว่าเป็นชุมทางผีดุที่สุดในกรุงเทพฯ สมัยก่อนว่าซูเปอร์ไฮเวย์ หรือเปลี่ยนเป็นวิภาวดีฯ น่ะ เคยครองแชมป์ย่านผีดุในอดีตก็ต้องมาตกกระป๋องไปซะแล้ว

ย่านรัชดาภิเษกนี่แหละที่กลายเป็นแชมป์เรื่องผีดุสุดขีด เล่นงานเอาผู้คนที่โดนหลอกหลอนถึงกับขนหัวลุกตั้งมานับไม่ถ้วน!

เรื่องผีสาวสองนางที่ชอบเรียกแท็กซี่ให้ไปส่งหน้าวัดเสมียนนารี แล้วสำแดงเดชเล่นงานจนคนขับแท็กซี่หวิดจะจับไข้หัวโกร๋นไปตามๆ กันเมื่อถึงปลายทาง ก็มักจะขึ้นรถแถวริมถนนรัชดาฯ นี่แหละ

บ้างก็ว่าสองสาวโดนรถชนตายที่นั่นเอง แต่บางเสียงก็บอกว่าเธอไปเดินเล่นบนทางรถไฟ คราวถึงฆาตเลยไม่ได้ยินทั้งเสียงหวูดเตือนภัย ไม่เห็นทั้งแสงไฟสว่างจ้า โดนทับร่างแหลกเหลว แขนขาขาดกระเด็นอย่างน่าอเนจอนาถที่สุด

มีคนอ้างว่าเคยเห็นปีศาจของเธอคลานงุ่มง่ามอยู่บนทางรถไฟตอนกลางคืน...เล่นเอาร้องตะโกนโหวกโหวยเป็นเจ๊กตื่นไฟไปตามๆ กัน

ถนนรัชดาภิเษกนี่ เชื่อกันว่าเป็นชุมทางผีดุยาวเหยียดไปตลอดสายก็ว่าได้นะครับ!

ผี! ห้องดับจิต

เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีก่อน ตอนนั้นดิฉันอายุประมาณ 18-19 ปี ดิฉันนับว่าเป็นเด็กแก่นแก้วคนหนึ่งมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยกลัวอะไร นิสัยของดิฉันเหมือนเด็กผู้ชาย ชอบปีนป่ายต้นไม้เล่นโดยเฉพาะต้นไม้ที่มีผลให้กินได้ อย่าง มะม่วง ชมพู่ หรือแม้กระทั่งมะขาม ก็ชอบอาสาที่จะปีนขึ้นไปเก็บผลของมัน โยนลงมาให้เพื่อนๆที่รอรับอยู่ข้างล่าง ส่วนตัวของดิฉันก็เก็บไปกินไปอยู่บนต้นนั่นเอง

นิสัยแก่นแก้วแสนซนของดิฉันติดตัวมาจนถึงรุ่นสาวจนกระทั่งสอบเข้าเรียนที่วิทยาลัยพยาบาลประจำจังหวัดได้ นิสัยนั้นก็ยังไม่หาย ยังชอบปีนป่ายต้นไม้อยู่เหมือนเดิม วิทยาลัยพยาบาลแห่งนี้อยู่ติดกับโรงพยาบาลของรัฐแห่งหนึ่งโดยมีรั้วกั้น ริมรั้วในโรงพยาบาลจะมีต้นมะม่วงขึ้นเรียงไปตามแนวรั้ว มีประตูเล็กๆเปิดเข้าออกระหว่างวิทยาลัยกับโรงพยาบาล

เต่าวัดพยาบาท

พรานคงและคนรุ่นเก่า ๆ ให้สัจจะปฏิญาณว่า ถึงจะล่าสัตว์ก็จริง แต่จะไม่ล่าและฆ่าลิง ค่าง บ่าง ชนี เพราะสัตว์เหล่านี้เมื่อถลกหนังออกแล้ว มีสภาพคล้ายเด็กทารกแดง ๆ และเลือกไม่ฆ่า ช้าง เต่า เพราะสัตว์ที่ว่านี้ อายุยืน การฆ่าสัตว์ที่อายุยืนนั้นท่านว่า ...ชดใช้เวรใช้กรรมกันชาติตกนรกหลายขุมนัก
หลายคนพูดเล่น ๆ ว่า กรรมนั้นมนุษย์สร้างกันแยะเหลือเกินมากเสียจนล้นเมืองนรกแล้ว ยังไงก็ไม่เบาบางลง ดังนั้นเมื่อมนุษย์ยังไม่วางมือจากกรรม ก็ให้กรรมนั้น จัดการลงโทษเสียแต่เมืองมนุษย์เพื่อแบ่งเบาเมืองนรกบ้าง คนที่ไม่เชื่ออาจจะหัวเราะเยอะว่างมงาย พวกโบราณล้าสมัย เป็นความเชื่อของบุคคล เพราะอะไรๆที่ถึงขั้นเป็นเวรเป็นกรรมต่อกันนั้นมักจะทันตาเห็นในชาตินี้ภพนี้นี่แหละ
นายชาติมีอาชีพเก็บมะพร้าวขาย เพราะพ่อของนายชาติมีที่ดินอยู่หลายไร่ เป็นมรดกจากพ่อแม่ ทิ้งไว้ให้ การหากินเลี้ยงชีพของนายชาติจึงไม่ฝืดเคือง เขาได้แต่งงานกับสาวหมู่บ้านเดียวกันและมีลูกด้วยกัน 2 คน นิสัยของนายชาติค่อนข้างไปทางเกเร ชอบดืมเหล้าเล่นการพนัน พรรคพวกเพื่อนฝูงของนายชาติมีนิสัยคล้ายคลึงกัน

แรงอาฆาต

"ตรีณา" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกของคนไม่เชื่อเรื่องผี

ดิฉันไม่เคยเชื่อว่าเรื่องภูตผีปีศาจมีจริง นอกจากเรื่องเหลวไหล ไร้สาระที่มีแต่เด็กๆ กับคนหัวโบราณ งมงายเรื่องอาถรรพณ์ ปาฏิหาริย์ จิตอ่อน อารมณ์อ่อนไหว เชื่อคนง่าย เห็นอะไรก็คิดว่าเป็นภูตผีไปหมด

คนประเภทนี้มักชอบสะกดจิตตัวเอง ขาดความเข้มแข็ง เชื่อมั่น อยากเห็นในสิ่งที่ตัวเชื่อ ก็เท่านั้นเอง!

แม้แต่จะได้พบกับเหตุการณ์สยดสยองด้วยตัวเองมาแล้ว ดิฉันก็ยังไม่อยากเชื่อเรื่องผี...ส่วนคำตอบแท้จริงจะเป็นอย่างไร ขอบอกว่าไม่ทราบจริงๆ ค่ะ

เพื่อไม่ให้เสียเวลาของท่าน ดิฉันขอเล่าประสบการณ์ขนหัวลุกที่ประสบมาให้ท่านฟังเลยนะคะ

เมื่อครั้งเกิดปัญหาทางเศรษฐกิจรุนแรง ฟองสบู่แตกใหม่ๆ ดิฉันกับเพื่อนร่วมงานโชคดีที่บริษัทของเราเป็นปึกแผ่นมั่นคง ไม่ต้องปลดพนักงาน หรือให้พนักงานลาออกโดยมีเงินล่อใจ 6-8 เดือน ดิฉันต้องคอยปลอบใจเพื่อนๆ ที่ทำงานบริษัทอื่น...แม้แต่ทำงานแบงก์ก็ไม่วายมีผลกระทบค่ะ

ไม่ทราบจะให้กำลังใจอะไรดีไปกว่า ชีวิตก็อย่างนี้แหละ! ทุกข์กับสุข สมหวังกับผิดหวัง หัวเราะและน้ำตาเป็นของคู่กันเสมอมา

เรื่องผีใน มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา

เรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัวอยู่ไม่น้อย “ปาล์ม” นักศึกษาปริญญาโท สาขาวิชาเทคโนโลยีการบริหารสิ่งแวดล้อม เล่าประสบการณ์ให้พวกเราได้ฟังกัน

ปาล์ม เริ่มต้นเล่าว่า สมัยก่อนเคยได้ฟังตำนานจาก คนเก่าคนแก่ของมหาวิทยาลัยมหิดล ว่า พื้นที่ในเขต "ศาลายา" คือชื่อตำบลหนึ่งที่ตั้งอยู่ใน จ.นครปฐม และปัจจุบันที่ดินส่วนหนึ่งของ ต.ศาลายา ก็เป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยมหิดล ในอดีตศาลายานี้ขึ้นชื่อว่าเป็นแหล่งซ่องสุมโจรและเลื่องลือกันว่า "ผีดุ" มักปรากฏตัวให้ใครต่อใครเห็นอยู่เป็นประจำ

ชื่อ "ศาลายา" มีเล่าต่อกันมาหลายทาง สมัยก่อนศาลายาจะเป็นชื่อที่คู่มากับ "ศาลา ทำศพ" ซึ่งมีผู้สันนิษฐานว่า แต่ก่อนสถานที่ 2 แห่งนี้ น่าจะเคยมีเหตุการณ์ที่ทำให้คนเจ็บไข้ล้มตายกันมาก จึงมีการตั้งศาลาขึ้นจ่ายยาแก่คนเจ็บเหล่านั้น และเมื่อล้มตายก็จัดการเผาศพจึงมีชื่อทั้ง "ศาลายา" และ "ศาลาทำศพ" ต่อมาเห็นว่าชื่อ "ศาลาทำศพ" ไม่เป็นมงคลจึงเปลี่ยนชื่อเป็น "ศาลาธรรมสรพณ์" และยังใช้ในปัจจุบัน

ไปจับผี

"เด็กซน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อไปลองของในบ้านร้าง

ผมกับเพื่อนๆ อยากรู้ว่าผีมีจริงรึเปล่า? เราจะรู้คำตอบได้ยังไงล่ะครับ ถ้าไม่ได้ไปพิสูจน์ให้แจ่มแจ้งแดงแจ๋ด้วยตัวเอง?

พอดีในซอยบ้านเจ้าโอ-เพื่อนซี้ของผมก็ดันมีผีบ้านร้าง เขาลือกันว่าผีดุน่าดู คนในบ้านฆ่ากันตายเพราะความหึงหวง ไม่มีใครกล้าเฉียดใกล้บ้านนี้หรอก แต่พวกผมมีแผนสุดเจ๋ง ไอเดียกระฉูดขึ้นมา

เราเรียกว่าแผนตามล่าหาผีครับ!

วันที่เราเลือกปฏิบัติการคือวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ศุกร์ที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ.2549 ตรงกับวันวิสาขบูชา พระจันทร์เต็มดวงสวยแจ่ม เหลืออีกแค่สองวันเราจะเปิดเทอมขึ้น ม.6 แล้ว วีกเอ็นด์สุดท้ายนี้ขอสนุกกันให้เต็มที่

เงาสยอง

"ชายน้อย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากหน้าต่างข้างบ้าน

บ้านที่อยู่ตรงข้ามบ้านผมนั้น มีบานหน้าต่างที่สวยมากครับ เขาติดกระจกสี มีสีเหลือง แดง เขียว ฟ้า เวลาเปิดไฟในห้อง แสงไฟจะส่องผ่านกระจกออกมาดูลานตา ผมมองไม่เบื่อเลยแทบทุกคืน

มันเป็นหน้าต่างรูปโค้งกว้างใหญ่ บนชั้นสอง ซึ่งผมรู้ว่าเป็นห้องนอนของลูกสาวเจ้าของบ้านน่ะครับ เสียดายแต่ตอนหลังๆ นี้ ไฟในห้องนั้นไม่ค่อยได้เปิด บางวันมันมืด เหงา เห็นแล้ววังเวงใจชอบกล

ผมได้ข่าวว่าเจ้าของห้องมีเรื่องทุกข์ใจหนักหนาสาหัสเชียว!

กรุณาอย่าคิดว่าผมหลงเสน่ห์สาวสวย เจ้าของห้องนอนกระจกสีนะครับ เธอเป็นนักศึกษาปี 4 ส่วนผมน่ะแค่เด็กม.3 เท่านั้น แหม! รุ่นใหญ่กว่าเยอะเลย ไม่คิดจะข้ามรุ่นหรอกฮะ! ผมเรียกเธอว่าพี่ปู (คนสวย) เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของคุณป้าปุ๊กับคุณลุงอุดม เพื่อนบ้านที่สนิทกับครอบครัวผมอย่างดี

พี่ปูเรียนเก่งมาก ถึงจะเป็นคนสวยแต่ก็คร่ำเคร่งกับการเรียน ผมไม่เคยเห็นพี่ปูไปเที่ยวที่ไหนเลย ตอนเช้าไปมหาวิทยาลัย ตอนเย็นกลับมาแทบตรงเวลาเป๊ะทุกวัน ก่อนพระอาทิตย์จะตกดิน

พอค่ำลง หน้าต่างห้องพี่ปูก็ดูสวยด้วยสีแพรวพราว!

น้ำชาเมืองคอน

"ไข่ ปากคอน"เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากนครศรีธรรมราช

"เราชาวนครอยู่เมืองพระ มั่นอยู่ในสัจจะศีลธรรม กอปรกรรมดี มีมานะพากเพียร ไม่เบียดเบียนทำอันตรายผู้ใด"
ไม่ต้องบอกก็คงรู้แล้วนะครับ ว่าเป็นคำขวัญของจังหวัดนครศรีธรรมราช พวกเรา "ชาวคอน" หรือ "คนคอน" สุดจะภาคภูมิใจในบ้านเมืองของตัวเองว่าเป็นชุมชนเก่าแก่ก่อนประวัติศาสตร์ มีความเจริญรุ่งเรืองสูงสุดเป็นพันปีมาแล้ว
คนจังหวัดอื่นๆ มักจะหาว่าพวกเราเป็นคนดุ ขอยืนยันยันว่าไม่ใช่หรอกครับ แต่ยอมรับว่าเป็นคนรักพวกพ้อง ไม่รังแกใครก่อน แต่ไม่ยอมให้ใครมาหยามง่ายๆเด็ดขาด

เรียกว่าเป็นคนจริงใจสุดๆ ละกัน!

แหม! พวกผมน่ะคนเมืองพระ เมืองกวีนะครับ ไม่ใช่บ้านป่าเมืองเถื่อนซะที่ไหน

วัดนางพระยา วัดพระมหาธาตุโด่งดังสุดๆ เพราะเป็นแหล่งกำเนิดองค์พ่อจตุคามรามเทพ ใครๆ ก็รู้กันอยู่ ไม่ใช่ว่ามาโฆษณาหรือประกาศสรรพคุณ "ราชันย์ทะเลดำ" หรอกครับ ท่านดังทั่วทั้งประเทศและต่างประเทศมาเป็นปีแล้ว เมืองคอนบ้านผมที่เคยสงบมาช้านานเลยคึกคักเหลือเชื่อ กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวบูมระเบิดไปเลย

ผีกะเหรี่ยงสาว

เมื่อประมาณปี ๒๕๐๗ ณ หมู่บ้านบนเขา ซึ่งเป็นหมู่บ้านของชนชาวกะเหรี่ยง ตั้งอยู่ในวงล้อมของขุนเขาและป่าทึบ การคมนาคมทางรถยนต์ยังไม่สะดวก ต้องใช้การเดินทางด้วยเท้า บุกป่าฝ่ารกเข้าไป กว่าจะถึงหมู่บ้าน ก็แทบจะหมดอาลัยกันละ

พวกเราสามคม คือ ตัวผม วิรัช เทพ ได้รับคำสั่งจากหัวหน้าหน่วยงานมาลาเรีย ให้เข้าไปสำรวจเชื้อมาลาเรียที่หมู่บ้านบนเขา พวกเรากลัวก็กลัว อยากไปก็อยากไป ที่กลัวนั้นเพราะเป็นหมู่บ้านที่ไกล และยากลำบากมากในการเดินทางในป่าทึบ มีอันตรายที่มองไม่เห็นซ่อนอยู่มากมาย แต่.....พวกเรากำลังอยู่ในวัยหนุ่มฉกรรจ์ เหตุที่อยากไปนั้น เพราะสาว ๆ กะเหรี่ยงสมัยนั้นยังไม่มีมายา ล้วนแต่สวย ๆ ทั้งนั้น การเสียผี (การสู่ขอมาเป็นเมีย) ก็ไม่ยุ่งยาก และไม่แพงด้วย แต่ต้องย่องเข้าหาสาวก่อน รุ่งขึ้นถึงจะเสียผีกัน
เวลาทุ่มกว่า ๆ ของวันที่สามในการเดินทางของพวกเราทั้งสามคน พวกเราก็กำลังเดินขึ้นเนินหินปนดิน ซึ่งค่อย ๆ ลาดสูงขึ้น ๆ ๆ เรื่อย ๆ ๆ แสดงว่าเราเข้าเขตบ้านบนเขาแล้ว พวกเราต้องเดินกันอีกเกือบชั่วโมง ถึงจะมองเห็นหลังคาบ้านเป็นเงาตะคุ่มอยู่เรียงรายกัน เสียงสุนัขเห่าขรม ผมส่งภาษากะเหรี่ยง (ขอแปลเป็นไทย) กับเจ้าของบ้านหลังแรกที่เรามาถึง

วิญญาณห่วงแม่

"วิษณุ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณแม่ลูกผูกพัน

น้าแหม่มเป็นเพื่อนของแม่ผม แต่ก็ไม่ได้สนิทกันหรอกครับ นานทีปีหนถึงจะไปมาหาสู่กันทีเพราะต่างคนต่างก็มีภาระ สามีน้าแหม่มเป็นข้าราชการ ต้องไปทำงานต่างจังหวัด แต่เมื่อสองปีก่อนเขาเสียชีวิต น้าแหม่มเลยต้องหอบจุ๊บแจง-ลูกสาวคนเดียวกลับมาอยู่กรุงเทพฯ

แม่กับน้าแหม่มเริ่มสนิทสนมกันอีกครั้ง และแล้วจุ๊บแจงก็ประสบอุบัติเหตุจมน้ำตาย เรื่องอันชวนขนหัวลุกก็บังเกิดนับแต่นั้น!

เมื่อ 2 ปีก่อนผมอยู่มหาวิทยาลัยปี 3 จุ๊บแจงอ่อนกว่าผม 2 ปี เธอเป็นเด็กสาวที่เรียบร้อยขี้อายมาก หรือจะอายเฉพาะเวลามาบ้านผมก็ไม่รู้ซินะครับ ดูท่าเธอไม่ค่อยเต็มใจมากับแม่เธอเลย ป้าสุข-คนรับใช้บ้านเราเคยได้ยินจุ๊บแจงบ่นกับน้าแหม่มว่า

ตายแล้วฟื้น

"บิลลี่" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อเห็นศพลืมตา

ย่านุ่นเป็นพี่สาวแท้ๆ ของคุณย่าผม เราอยู่บ้านเดียวกันโดยพวกผม คือพ่อ แม่ น้องๆ และปู่ย่า อยู่ด้วยกันบนตึกใหญ่ ส่วนย่านุ่นอยู่คนเดียวที่เรือนไม้หลังเล็ก 2-3 ปี มานี่แก่อ่อนแอลงทุกทีๆ จนในที่สุดต้องนอนเฉยๆ แต่ไม่ได้เจ็บป่วยถึงขนาดต้องพาไปโรงพยาบาล ผมเองน่ะบอกอย่างไม่อายเลยว่า กลัวแกจะตายในบ้านนี้ กลัวมากจริงๆ ครับ แต่แล้ววันหนึ่งมันก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้

คนดูแลย่านุ่มเป็นเด็กรับใช้ชาวพม่าชื่อนิ้ง มีหน้าที่ยกสำรับอาหารมาให้ กับช่วยพยุงเข้าห้องน้ำ

อย่างที่ผมบอกละครับว่าแกเพียงแต่อ่อนระโหยโรยแรง ไม่ได้เจ็บป่วย แกกะย่องกะแย่งไปอาบน้ำและเข้าห้องน้ำเองได้ กินข้าวเองได้ นิ้งแค่คอยดูแลใกล้ๆ และนอนเป็นเพื่อน ย่านุ่นก็เป็นคนน่ารัก ไม่บ่นจู้จี้ ใจดีด้วยซิ เวลาผมกลับจากโรงเรียนแวะเข้าไปหาย่าจะยิ้มดีใจ อวยชัยให้พรว่า จบม.6 แล้วให้เรียนต่อมหาวิทยาลัยได้ปริญญาสูงๆ นะ

บริษัทสยอง

"ปวัตต์" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากสี่พระยา

บริษัทประกันภัยที่ผมทำงาน อยู่แถวสี่พระยานี่เองครับ ความเจริญไม่ต้องพูดถึงก็ได้ เพราะเป็นย่านธุรกิจการค้าที่ใหญ่เป็นอันต้นๆ ของกรุงเทพฯ มาหลายสิบปีแล้ว

ตอนเที่ยงๆ พนักงานบริษัทและห้างร้านกรูเกรียวกันออกไปหามื้อเที่ยงกิน มองจากตึกสูงๆ เห็นแต่หัวดำๆ เหมือนมดเหมือนปลวกไม่มีผิด

เฉพาะ บริษัทผมแห่งเดียวก็ปาเข้าไปตั้งเกือบ 100 คน! เมื่อราว 2-3 ปีก่อน เกิดเรื่องสยองติดๆ กัน คือพนักงานสาวกินยาตายในห้องน้ำ สาเหตุจากปัญหาท้องไม่มีพ่อ กับอกหักกระโดดตึกที่หนังสือพิมพ์เขาเรียกว่า "โหม่งโลก" ฆ่าตัวตายนั่นแหละครับ ตึกสูงสิบกว่าชั้นจะไปมีอะไรเหลือล่ะ?

"พี่แอ๋ว" ผู้ช่วยฝ่ายการเงินไปเข้าห้องน้ำ เกิดอุบัติเหตุลื่นล้มหมดสติ กว่าจะมีคนไปพบและนำส่งโรงพยาบาล พี่แอ๋วก็กลายเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่เกือบหนึ่งเดือนก่อนจะสิ้นชีวิต

ลูกเนรคุณ

หลวงพ่อ เติม เมธีวังโส ท่านเป็นเจ้าอาวาสวัดทรายมูล บ้านแดงใหญ่ ต.แดงใหญ่ อ.เมือง จ.ขอนแก่น ท่านบอกว่าในตอนเป็นหนุ่ม ท่านได้ไปพบ ไปเห็นคนที่โดนวิบากกรรม เล่นงานมาจนถึงตาย และอีกสามชีวิต ต้องตกระกำ ลำบาก ไปตามๆกัน
ตอนนั้นหลวงพ่อยังเป็นฆราวาสอยู่ อายุประมาณ ๑๐ กว่าปี ได้พบกับ เหตุการณ์ อันน่าสลดใจ คือ...

นาง เนียนลูกสะใภ้หลังจากมีลูกสองคนแล้ว ก็เกิดความขี้โลภ อยากได้สมบัติ มาเป็นสมบัติของตน แต่เพียงผู้เดียว ด้วยความคิดกลัวไปว่า จะแบ่งปัน สมบัติ ที่มีอยู่นี้ ให้กับพี่ชายของสามี นางเนียนจึงพยายาม หาเรื่องต่างๆนานา ฟ้องผู้เป็นสามี อยู่เสมอๆ ด้วยการโกหกว่า "พ่อส่วยแม่สาย มาบ่นมาด่าจู้จี้จุกจิกบ่อยๆ ฉันน่ะรำคาญ หากยังขืนบ่น ขืนว่าฉันอีก ฉันว่าควรจะแยกกันอยู่เสียดีกว่า"

หนุ่มหลอนมอบตัว วิญญาณตาม สารภาพเคยฆ่าคน



หนุ่มสตูลสติแตก ถูกวิญญาณตามหลอน เดินร้องไห้ขึ้นโรงพักให้ตำรวจจับใส่กุญแจมือ สารภาพเคยฆ่าเพื่อนตายเมื่อเดือน ก.ย. 53 เพราะแค้นที่ดื่มกินด้วยกัน แต่ไม่ยอมออกเงินจนต้องเอา จยย.ไปจำนำจ่ายค่าเหล้า ตร.เร่งสรุปสำนวนส่งฝากขังทันที...

เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณี พ.ต.ท.จักรพันธุ์ คงแก้ว สว.เวร สภ.เมืองสตูล จ.สตูล รับแจ้งพบศพนายมูฮัมหมัดเฮรี เต๊ะปูยู อายุ 18 ปี ถูกทุบด้วยของแข็งและนำศพไปทิ้งที่สะพาน ม.1 ต.เจ๊ะบิลัง อ.เมืองสตูล เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 12 ก.ย. 53 ล่าสุด นายจีระศักดิ์ หมาดเต๊ะ อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 102 ม.13 ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล อาชีพรับจ้างกรีดยางพารา ได้เดินร้องไห้ขึ้นไปพบตำรวจบนโรงพัก สภ.ฉลุง อ.เมืองสตูล ขอมอบตัวในคดีฆ่าคนตายที่ตัวเองเคยก่อเหตุไว้ เมื่อตำรวจตรวจสอบแล้วพบว่าเป็นคดีที่เกิดขึ้นในท้องที่ สภ.เมืองสตูล จึงได้แจ้งให้ พ.ต.ท.จักรพันธุ์มารับตัวนายจีระศักดิ์ไปสอบปากคำ

โผล่อีกดวงไฟปริศนาชาวแปดริ้วเชื่อเป็นกระสือ

ตะลึง!กระสือเมืองแปดริ้วโผล่อีก ผู้ร่วมพิสูจน์นับสิบเห็นกันจะ ๆ แห่วิ่งกรูเข้าไปถ่ายภาพก่อนดวงไฟปริศนาหายวับไปกับตา

เมื่อวันที่ 9 ม.ค. ที่หมู่บ้านหนองปาตอง หมู่ 2 ต.หนองยาว อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ได้มีชาวบ้านลำลือกันว่า พบผีกระสือออกหากินตอนกลางคืน ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปตรวจสอบ พบนายณะเรศ สุดชื่น อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 160/2 และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลหนองยาว เปิดเผยว่า ชาวบ้านสงสัยหญิงสูงวัยคนหนึ่งในพื้นที่ว่าจะเป็นผีกระสือ เนื่องจากลูกชายไปเรียนวิชาไสยศาสตร์มาจากอีสาน ก่อนมาเป็นร่างทรงเลี้ยงภูตผีเอาไว้ และมักจะเอาเลือดหมู เลือดไก่ มาเซ่นไหว้ประจำ ต่อมาได้หายตัวออกจากบ้านไป แต่จู่ๆก็มีคนพบเห็นดวงไฟลอยออกมาจากบริเวณบ้านของชายคนดังกล่าวเป็นประจำ จึงลำลือกันว่าเป็นผีกระสือ ซึ่งสิงอยู่ในร่างของแม่คนเข้าทรง

หลวงปู่หลอด ปโมทิโต เผชิญอำนาจวิญญาณร้ายเข้าสิง

หลวงปู่หลอด ปโมทิโต ในวัยชราท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดสิริกมลาวาส (วัดใหม่เสนานิคม) เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร
ในวัยฉกรรจ์... พระเถราจารย์ท่านนี้ยึดถือธุดงค์เป็นวัตรตลอดเวลา ๙ เดือนของกาลออกพรรษาเป็นเวลานับ ๑๐ ปี

ตลอดเวลาอันยาวนานซึ่งหลวงปู่หลอดจาริกสู่ป่าเขาอันเปล่าเปลี่ยว ห่างไกลจากผู้คนพลุกพล่านและร้อนเร่าด้วยไฟกิเลส ก็เพื่อพารูปกายสังขารนี้ไปสู่ความวิเวก มุ่งหน้าฝึกจิตด้วยการปฏิบัติสมณธรรมอย่างอุกฤษฏ์ มุ่งมั่นตัดขาดปวงกิเลสทั้งหลายซึ่งเกาะติดจิตวิญญาณข้ามภพข้ามชาติเหลือที่จะนับมาแล้วให้จงได้

และในห้วงเวลาดังกล่าวนั้น หลวงปู่หลอดได้เผชิญกับประสบการณ์ซึ่งไม่ผิดกับพลังแห่งสัจจธรรมที่หล่อหลอมดวงจิตให้แข็งแกร่งภายใต้สติอันมั่นคง
ดังเช่นการเผชิญกับเสือเป็นครั้งแรกในชีวิตของท่าน

"เสือ" ...เดรัจฉานผู้ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็น "จ้าวป่า" คือสัตว์กินเนื้อที่น่ากลัวที่สุด อานุภาพน่าพรั่นพรึงสุดขีดของมันจะปรากฏให้เห็นขณะออกล่าเหยื่อหรือได้รับบาดเจ็บ หรือจนตรอก
เพียงแค่เสียงเสือคำรามสะท้อนสะท้านมาให้ได้ยิน ส่ำสัตว์ในป่าดิบดงลึกก็แตกตื่นหนีกันกระเจิง

เทพเจ้าอู่ทอง และ ผี ที่พุทไธสวรรค์

ยังมีเรื่องราวอันเป็นเรื่องเล่าของสถานที่ศักดิ์สิทธิ์แห่งหนึ่งในเขตเมืองกรุงเก่าหรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งมีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญ เพราะเคยเป็นสถานที่พำนักแห่งแรกของพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา องค์ที่ 1 คือ สมเด็จพระเจ้าอู่ทอง สถานที่ที่ว่านี้อยู่ติดริมน้ำเจ้าพระยา แต่เดิมเรียกว่า "เวียงเหล็ก" ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของวัดพุทไธสวรรย์ ที่นี่เล่าขานกันว่าเป็นสถานที่รวมของความศักดิ์สิทธิ์แห่งเทพและวิญญาณหลายตน ซึ่งสถิตย์อยู่และแสดงฤทธิ์แสดงอาถรรพณ์ให้บังเกิดต่างๆนานา

หากใครเคยไปเที่ยววัดพุทไธสวรรย์ คงจะเคยไปสักการะ "เทพพระเจ้าอู่ทอง" ที่ประดิษฐานอยู่ตรงผนังด้านนอก ด้านซ้ายของพระปรางค์องค์ใหญ่ "เทพพระเจ้าอู่ทอง" เป็นพระพุทธรูปยืนขนาดเท่าคนจริง หรือพระพุทธรูปองค์นี้จะมีพระพุทธรูปปางไสยาสน์ ซึ่งพระเจ้าอู่ทองสร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงพระราชมารดาของพระองค์เทพ หรือ "เทพารักษ์พระเจ้าอู่ทอง" มีประวัติว่าสร้างมานานนับร้อยๆปีเพื่อเป็นเทพารักษ์ ประจำพระนคร ให้ชาวเมืองสักการะ โดยแต่เดิม ประดิษฐานอยู่ที่หอพระเทพบิดร ภายในวัดพระศรีสรรเพชญ์ ครั้นเสียกรุงเมื่อ พ.ศ. 2310 ไฟไหม้วัดพระศรีสรรเพชญ์ เสียหายหมด
ภายหลังจึงได้อัญเชิญ พระเทพบิดรไปปฏิสังขรณ์แล้วนำไปประดิษฐาน ณ พระปรางค์วัดพุทไธสวรรย์
ครั้นปี พ.ศ. 2327 สมัยรัชกาลที่ 1 พระเจ้าลูกเธอกรมหมื่นเทพพลภักดิ์คุมกรมพระคชบาล เสด็จออกไปซ่อมเพนียดที่กรุงศรีอยุธยา ทรงพบพระพุทธธูปพระเจ้าอู่ทอง จึงกราบทูลรัชกาลที่ 1 ขออัญเชิญลงมากรุงเทพฯ และโปรดให้เปลี่ยนรูปใหม่เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องหุ้มด้วยเงินทั้งองค์ และให้หล่อพระพุทธรูปพระเจ้าอู่ทองขึ้นใหม่เป็นทองสำริดลงรักปิดทองทรงเครื่องน้อย

เรื่องผี ที่ได้รับความนิยม